สาหร่ายสไปรูลิน่า
มารู้จักสาหร่ายสไปรูลิน่ากันเถอะ
ประโยชน์ที่ได้รับประทาน สาหร่ายสไปรูลิน่า
1. ช่วยลดความเครียด ปวดศีรษะ บำรุงประสาท เป็นอาหารของสมองทำให้กระฉับกระเฉง
2. ลดคลอเลสเตอรอลในเส้นเลือด
3. ลดอาการอักเสบปวดข้อ ปวดประจำเดือน ปวดจากบาดแผลริดสีดวงทวาร
4. เสริมสร้างเซลล์ผิวหนังให้มีสภาพแข็งแรง เสริมสร้างเซลล์ใหม่ของร่างกาย
5. เสริมสร้างความเป็นหนุ่มสาว สร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้น
6. เสริมสร้างเส้นผมให้ดกดำ และเส้นผมแข็งแรงลดอาการผมร่วง
7. เสริมสร้างพละกำลังให้กับร่างกาย และนักกีฬา
8. รักษารูปร่างและน้ำหนักให้พอดี
9. บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ โรคโลหิตจาง
10. ป้องกันและบรรเทาโรคตับอักเสบ โรคตับแข็ง
11. ลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งทุกชนิด มีสารกระตุ้นภูมิต้านทานอาจทำลายเซลล์มะเร็งได้
12. ช่วยสร้างแลคโตบาซิลลัส ทำให้การดูดซึมและการย่อยดีขึ้นป้องกันการติดเชื้อ
13. บรรเทาอาการต้อมัวให้หายเร็วขึ้น ต้อกระจก และต้อหินให้มีอาการดีขึ้น
14. ลดพิษของสารปรอท ขับสารพิษในร่างกาย ช่วยลดกลิ่นปาก
15. ช่วยยับยั้งไวรัสเอดส์ สร้างภูมิต้านทานให้ดีขึ้น
16. ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น รักษาความสะอาดในลำไส้
17. ช่วยทำให้บาดแผลทั่วไปหายเร็วขึ้น
18. รักษาแผลเปื่อยในกระเพาะอาหาร การอักเสบทางเดินอาหารควบคุมกรดในกระเพาะอาหาร
19. ปรับระดับน้ำตาลในเลือด สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน
20. รักษาหวัด เสริมสุขภาพในรายที่เป็นหอบหืด
21. บรรเทาอาการเจ็บคอ ทอนซิลอักเสบ
22. เสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ เหมาะสำหรับวัยหมดประจำเดือน
23. ลดอาการปวดไมเกรน
24. ป้องกันโรคเหน็บชา
25. ช่วยให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคอัมพาต อัมพฤกษ์ ให้มีอาการดีขึ้น
26. ช่วยบรรเทาผู้ที่เป็นโรคเก๊าต์
27. ช่วยทำให้หลับง่ายขึ้น
สาหร่ายสไปรูลินาได้รับความสนใจอย่างมากในแง่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ
สาหร่ายสไปรูลินาได้รับความสนใจอย่างมากในแง่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่มีคุณค่าทางอาหารสูงและ ได้ผ่านการทดลองอย่างดีจากประเทศญี่ปุ่นในด้านการใช้ประโยชน์ทาการแพทย์ สาหร่ายชนิดนี้เคยใช้เป็นอาหารประจำวันทั้งในเม็กซิโก และใน แอฟริกามาตั้งแต่โบราณกาลในวงการอุตสาหกรรมอาหารสมัยใหม่ ก็มีการเสริมเติมสาหร่ายสไปรูลินาข้าไปในอาหารหลายชนิด เช่น ในเนยแข็ง ในซุป ในสาหร่ายโนริ ในไอศครีม ในช็อคโกแลต ในธัญพืช จุดกำเนิดดั่งเดิมของสาหร่ายสไปรูลินาะเทศเม็คซิโกและทวีปแอฟริกา แต่วิทยาศาสตร์สมัยใหม่เพิ่งจะให้ความสนใจสำรวจตรวจสอบ เมื่อศึกษาดูก็พบว่า ในการวิเคราะห์คุณค่าทางอาหารนั้น สาหร่ายชนิดนี้มีองค์ประกอบของโปรตีนสูง และยังมีวิตามิน กรดอะมิโน เกลือแร่และสีผสมอาหารอีกด้วย
สาหร่ายสไปรูลินาถูกร่างกายดูดซึมได้ดีเพราะมีผนังเซลล์บาง
สาหร่ายสไปรูลินาสาหร่ายหลายเซลล์ต่อกัน มีผนังเซลล์ที่นิ่ม บางและย่อยได้ง่ายมา ดังนั้นจึงย่อยได้เร็วและดูดซึมได้ดี การทดสอบเกี่ยวกับการย่อยมีอัตราสูงถึง 95% ต่างจากคลเรลลาที่มีผนังเซลล์แข็งและหนายากแก่การย่อย
องค์ประกอบของสาหร่ายสไปรูลินามีคุณค่าทางอาหารเหนือกว่าอาหารชนิดอื่น
องค์ประกอบของสาหร่ายสไปรูลินาด่นที่สุดคือมีปริมาณโปรตีนถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักแห้ง ซึ่งสูงกว่าปริมาณโปรตีนที่มีในเนื้อวัวหรือในไข่ถึง 3/2 เท่า สาหร่ายสไปรูลินามิได้โดดเด่นอันเนื่องมาจากมีปริมาณโปรตีนสูงสุดเพียงอย่างเดียว เพราะถ้ามีโปรตีนสูงแต่โปรตีนที่มีอยู่ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่ไร้คุณค่าหรือ ไม่ได้สัดส่วนที่พอเหมาะ โปรตีนนั้นก็ปราศจากประโยชน์อย่างสิ้นเชิง แต่สาหร่ายสไปรูลินาไม่เป็นเช่นนั้น กรดอะมิโนที่มีอยู่จัดเรียงกันอย่างได้สัดส่วนสมดุลยิ่ง นอกจากนั้นสาหร่ายสไปรูลินายังประกอบด้วยคลอโรฟิลล์และไฟโคไซยานิน จำนวนมาก เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า คลอโรฟิลล์ทำให้พืชมีสีเขียว และมักเรียก คลอโรฟิลล์ว่าเลือดเขียว คลอโรฟิลล์จะช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยรักษาโรคผิวหนัง กระตุ้นให้แผลแห้งและหายเร็วขึ้น ช่วยร่างกายขับสารพิษต่างๆ ลดอาการท้องผูก ช่วยฟื้นฟูตับที่ สื่อมสลาย ช่วยลดอาการอักเสบของแผลในกระเพาะอาหาร ส่วนไฟโคไซยานินเป็นสารให้สีประเภทบิลิรูบิน เป็นคุณสมบัติเฉพาะของสาหร่ายสไปรูลินาให้ สาหร่ายสไปรูลินามีสีเขียวแกมน้ำเงิน ไฟโคไซยานินมีความสำคัญยิ่งต่อการทำงานของตับและการย่อยสลายกรดอะมิโนช่วยทำให้ภูมิคุ้มกันโรคของร่างกายดีขึ้นและยังช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเนื้องอก และสาหร่ายสไปรูลินายังมีคาโรทีนอยด์หรือ จะเรียก โปรวิตามิน( Provitamin ) ซึ่งเป็นสารที่เปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้
สาหร่ายสไปรูลินามีธาตุอาหารที่จำเป็นครบถ้วน
จึงเหมาะที่จะเป็นอาหารที่ใช้ในการปรับหรือใช้เปลี่ยนสภาพความเป็นกรดของร่างกายกระบวนการเผาผลาญอาหารในร่างกายเราจะได้ผลพลอยได้มาเช่น คาร์บอนไดออกไซด์ และไฮโดรเจนอิออน คาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งอยู่ในสภาพก๊าชนี้จะถูกขับออกมาทางลมหายใจ ส่วนไฮโดรเจนอิออนจะรวมกับออกซิเจน แล้วไหลวนไปตามเส้นเลือดซึ่งในที่สุดก็จะถูกขับถ่ายออกจากร่างกายทางปัสสาวะ เมื่อใครก็ตามมีปริมาณไฮโดรเจนอิออนในปริมาณมาก คนคนนั้นก็จะมีสภาพร่างกายอยู่ในสภาพเป็นกรดร่างกายก็จะเหนื่อยง่ายแม้จะออกแรงเพียงเล็กน้อยและอาจ จะสูญเสียกำลังวังชา ความกระตือรือร้น เกิดความเบื่อหน่ายท้อแท้ ถ้าเป็นมากๆก็จะกลายเป็นคน ขี้โรค ดังนั้น สภาพเป็นกรดของร่างกายจึงเป็นบ่อเกิดแห่งโรคอื่นๆ ซึ่งอาหารและความ เครียดเป็นสาเหตุเบื้องต้น ถ้าอาหารนั้นขาดธาตุโซเดียม โพแทสเซียมและแมกนีเซียม ก็มีแนว โน้มที่จะทำให้เกิดสภาพเป็นกรดได้ ดังนั้น เพื่อที่จะคงสภาพความเป็นด่างในร่างกายไว้ เราก็ต้อง พยายามกินอาหารต่างๆ เหล่านั้นในปริมาณสูง และต้องได้สารอาหารเหล่านั้นในอาหารกิน ประจำวัน แต่ในปัจจุบันมีการใช้อาหารกระป๋องมากขึ้น ดังนั้นการที่หวังจะได้ธาตุอาหารครบถ้วนจากอาหารการกินประจำวันนั้นเป็นไปได้ยาก สาหร่ายสไปรูลินามีธาตุอาหารที่จำเป็นเหล่านี้ครบถ้วน จึงเหมาะที่จะเป็นอาหารที่ใช้ในการปรับหรือใช้เปลี่ยนสภาพความเป็นกรดของร่างกาย
สาหร่ายสไปรูลินายอดคุณภาพ
สาหร่ายสไปรูลินาธรรมชาติ ซึ่งมีปริมาณโปรตีน เกลือแร่และวิตามิน ฯลฯ ที่อยู่ในสภาพสมดุลยิ่ง เป็นที่ยอมรับกันว่าสาหร่ายสไปรูลินาปลอดภัย ปราศจากสารพิษ และไม่ปรากฏพิษข้างเคียงแม้จะใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน และยิ่งกว่านั้นเนื่องจากย่อยได้ง่ายจึงเป็นอาหารที่เหมาะที่สุดสำหรับคนฟื้นไข้หายไข้ เป็นการใช้เพื่อบำรุงและเสริมสุขภาพ
สาหร่ายสไปรูลินามีคลอโรฟิลล์ที่มีสารต้านการอักเสบของโรคกระเพาะอาหาร
ยาสำหรับรักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบและโรคแผลเปื่อยในกระเพาะอาหารนั้นต้องมีคลอโรฟิลล์ผสมอยู่ด้วย ทั้งนี้เพราะคลอโรฟิลล์เป็นสารที่ให้ผลทางการรักษา อาการอักเสบของเยื่อบุในกระเพาะหรือเยื่อบุหลอดลม เป็นยาที่ใช้ในการรักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบ โรคแผลเปื่อยในกระเพาะอาหารและโรคหลอดลมอักเสบ
สาหร่ายสไปรูลินาเหมาะมากที่จะเป็นอาหารเสริมในอุดมคติ
โปรตีนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย ผู้ใหญ่มีความต้องการโปรตีนอย่างต่ำประมาณวันละ 60-70 กรัม ในขณะที่เด็กๆ ที่กำลังเจริญเติบโตต้องการมากกว่านี้คือประมาณกว่า 80-90 กรัมต่อวัน โปรตีนเป็นสารประกอบที่สร้างขึ้นจากกรดอะมิโนหลายชนิดแลเนื่องจากการจับตัวกันของกรดอะมิโนของโปรตีนจะแตกต่างกันไปตามชนิดของสัตว์ ดังนั้นจึงควรที่จะกินโปรตีนจากแหล่งโปรตีนให้หลากหลายชนิด จากการที่ต้องหาแหล่งให้สารโปรตีนและวิตามินแก่ร่างกายนี่เอง สาหร่าย สไปรูลินาจึงเหมาะมาก เหมาะที่จะเป็นอาหารเสริมในอุดมคติ เหตุผลสำคัญก็คือปริมาณโปรตีนที่มีอยู่มากในสาหร่ายสไปรูลินาถึง 70 เปอร์เซนต์โดยน้ำหนัก ในขณะที่ปลา (ปลาทู ปลาอินทรีย์) จะมีเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ เนื้อวัว 19 เปอร์เซ็นต์ ถั่วเหลืองญี่ปุ่น 34 เปอร์เซ็นต์ และคลอเรลลา 48 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งไปกว่านั้น อาหารทุกชนิดที่กินเข้าไปจะต้องถูกดูดซึมโดยเซลล์ของทางเดินอาหาร ซึ่งสาหร่ายสไปรูลินามีอัตราการดูดซึมที่ดีเยี่ยมถึง 95% ทั้งนี้ก็เพราะสาหร่ายสไปรูลินาสาหร่ายหลายเซลล์ที่มีผนังเซลล์บางและถูกดูดซึมได้ง่าย
คุณสมบัติของสาหร่ายสไปรูลินาโลกสมัยใหม่ต้องการ
ตามสถานการณ์ปัจจุบัน เราต้องการรูปแบบการดำรงชีวิตแบบอื่นที่จะช่วยป้องกันโรคและรักษาสุขภาพของเราไว้ ในการนี้เราต้องกินอาหารโปรตีนปริมาณมาก รวมทั้งวิตามินและแร่ธาตุในอัตราส่วนที่พอเหมาะ จุดเด่นที่สำคัญของสาหร่ายเกลียวทองในแง่ของโภชนาการ ดังนี้
1. มีเปอร์เซนต์ของโปรตีนสูง ทั้งเป็นโปรตีนที่มีกรดอะมิโนที่จำเป็นกระจัดกระจายอย่างได้สัดส่วน ทั้งยังย่อยง่ายอีกด้วย
2. มีโพแทสเชียมและวิตามินจำนวนมาก
3. เป็นอาหารธรรมชาติที่มิได้มีสารปรุงแต่ง และเป็นอาหารที่มีความเป็นด่าง
4. มีสารให้สีธรรมชาติจำนวนมาก ที่หวังจะใช้ในทางการแพทย์
คุณค่าในทางอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพเยี่ยมเช่นนี้ช่วยรักษาบาดแผลได้ดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายที่เป็นโรคตับ ซึ่งโปรตีนคุณภาพดีเป็นสิ่งจำเป็นพอๆกับวิตามินและการที่มีโพแทสเซียมมาก ก็เป็นประโยชน์ในแง่การรักษาเกี่ยวกับความเครียด และยาที่มักใช้รักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารคือ เมซาฟิรีน (Mesafirine ยังป้องกันแผลเปื่อยยับยั้งแผลเน่าเปื่อย) ซึ่งมีสีเขียวและประกอบด้วยคลอโรฟิลลิน (Chlorophyllin)
สาหร่ายสไปรูลินาช่วยเสริมการรักษาสุขภาพของตับและป้องกันเซลล์ของตับจากพิษแอลกอฮอล์
ปริมาณเจ็ดสิบเปอร์เซนต์ของเนื้อตับเป็นสารโปรตีนและน้ำย่อยที่ทำหน้าที่ในการสลายสารต่างๆ ก็สร้างขึ้นมาจากโปรตีนทั้งสิ้น ดังนั้นการรักษาสุขภาพของตับไว้ได้ โดยให้กินอาหารที่มีโปรตีนเพียงพอเสมอ ตับที่แข็งแรงจะมีไขมันประมาณ 4 เปอร์เซนต์โดยน้ำหนัก แต่ถ้าสัดส่วนนี้เพิ่มขึ้นไปถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ตับจะมีขนาดใหญ่ขึ้นและเซลล์ตับก็จะขยายใหญ่ขึ้นด้วย ซึ่งเป็นเครื่องชี้ว่า มีการสะสมไขมันในตับเพิ่มขึ้น เมื่อมีการสะสมไขมันไว้ในเซลล์ของตับอันเนื่องมา จากตับได้รับสารอาหารโปรตีนไม่เพียงพอ เป็นโรคที่มักพบบ่อยในผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์โดยไม่กินกับแกล้ม เพราะในการขจัดแอลกอฮอล์นั้นจะต้องมีสารอาหารโปรตีนหล่อเลี้ยงตับอย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการสะสมของไขมันในเซลล์ของตับ ถ้ามีปริมาณโปรตีนมากพอ ไขมันใดๆที่ไม่ถูกเผาผลาญลงก็จะถูกส่งไปเก็บไว้ในเซลล์ไขมันใต้ผิวหนัง สารอาหารที่โปรตีนต้องการก็คือ เมทไทโอนีน ( Methionine ) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่เป็นองค์ประกอบของโปรตีน กรดอะมิโนนอกจากจะเป็นสารอาหารสำคัญของโครงสร้างของเซลล์แล้ว ยังเป็นตัวป้องกันเซลล์ของตับจากพิษของแอลกอฮอล์อีกด้วย ดังนั้นโปรตีนคุณภาพดีจากสาหร่ายสไปรูลินาประกอบด้วยเมทไทโอนีน ประมาณ 1.3-2.0 กรัมต่อ100 กรัม มีมากกว่า ปลาทู ถั่วเหลือง ไข่ และเนื้อวัว 3-5 เท่า จึงสามารถเสริมการรักษาสุขภาพของตับไว้ได้
สาหร่ายสไปรูลินาแก่นแท้ของพืชผักสีสดใส
ปัจจุบันคนเราได้สารอาหารที่สำคัญๆจากพืชผักสีสดในปริมาณต่ำกว่าที่ร่างกายต้องการมาก พืชผักเหล่านี้มีเบต้าแคโรทีน กลุ่มวิตามินบี วิตามินอี เหล็ก โพแทสเซียม และคลอโรฟิลล์ ซึ่งเป็นสารอาหารที่ส่งเสริมกระบวนการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรท ไขมัน โปรตีน และแอลกอฮอล์ให้เป็นพลังงาน และการสร้างผิวหนังและเนื้อเยื่อบุ ช่องว่างต่างๆในร่างกายใหม่ สาหร่ายสไปรูลินาจะประกอบด้วยเบต้าแคโรทีนธรรมชาติ เป็นจำนวนมาก สำหรับร่างกายคนนั้นจะสามารถเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนที่มีอยู่ในอาหารให้เป็นวิตามินเอ ดังนั้นแทบจะไม่มีโอกาสที่การรับประทานสไปรูลินาในปริมาณมากจะมีผลเสีย ; ผลการศึกษาวิจัยโดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติใสหรัฐอเมริกาพบว่าการได้สาร เบต้าแคโรทีนในปริมาณ 6 มิลลิกรัมต่อวันอาจจะนำไปสู่การลดความเสี่ยงในการ เกิดมะเร็ง ท่านสามารถรับประทานเบต้าแคโรทีน 6 มิลลิกรัมอย่างปลอดภัย และโดยสะดวกเพียงแต่รับประทานสาหร่ายสไปรูลินาในปริมาณมาตรฐาน 4 กรัมต่อวัน ท่านก็จะได้วิตามินบี เหล็กและแคลเซียมอย่างพอเพียง ทั้งนี้เพราะการรับประทานสาหร่ายสไปรูลินา4 กรัม จะได้รับปริมาณสารอาหารและแร่ธาตุเทียบเท่ากับหรือมากกว่าการรับประทานผักสดถึง 100 กรัม
สารอาหาร 49 ชนิด ในสไปรูลินาให้กระบวนการทำงานภายในร่างกายอยู่ในสภาพที่สมดุล
ร่างกายคนต้องการคาร์โบไฮเดรทและไขมันเพื่อสร้างพลังงาน วิตามินก็จำเป็น ในการเผาผลาญอาหารในร่างกายเพื่อก่อให้เกิดพลังงาน นอกจากนี้เกลือแร่ก็จำเป็นในการช่วยให้ ร่าง กายได้รับวิตามินอย่างมีประสิทธิภาพ ท้ายที่สุดกรดอะมิโนหรือโปรตีนก็ขาดไม่ได้ในการทำให้ร่างกายได้ดูดซึมแร่ธาตุอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากวิตามิน เกลือแร่ และโปรตีนมีกระบวนการทำงานที่สัมพันธ์กัน ร่างกายคนเราจะได้รับประโยชน์จากอาหารที่รับประทานเข้าไปได้โดยการเปลี่ยนอาหารที่ย่อยให้เป็นพลังงานทุกวัน ถ้าร่างกายขาดสารอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งจะไปรบ กวนสภาพความสมดุลของ การบำรุงเลี้ยงร่างกายให้เกิดพลังงาน สารอาหารที่จำเป็นนี้เป็นตัวเชื่อมโยงที่ทำ ให้คนมีชีวิตอยู่ได้ สาหร่ายสไปรูลินาประกอบด้วยสารอาหารหลัก 49 ชนิด้วยกัน เป็นที่ ยอมรับกันว่าสาหร่ายสไปรูลินาเป็นอาหารในอุดมคติที่ทำให้เกิด ความสมดุล เพราะ ประกอบด้วยสารอาหารที่จำเป็นเกือบทุกอย่าง ท่านจะสามารถ รักษาสภาพสมดุลทางโภชนาการไว้ได้โดย การรับประทานสาหร่ายสไปรูลินาส่วนหนึ่งของอาหารประจำวันของท่าน
สาหร่ายสไปรูลินาส่งเสริมการลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลดน้ำหนักอย่างมีสุขภาพดี เป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับผู้ที่ทุ่มเทตนในการลดอาหารและควบคุมการรับประทานของตน ซึ่งในการควบคุมอาหารนี้มักจะทำให้เกิดการขาดสารอาหารที่จำเป็นและทำให้ผู้ลดอาหารไม่สามารถทนความเครียดที่เกิดขึ้น อีกทั้งทำให้เสียงต่อการเกิดโรค แต่ถ้าท่านเริ่มการลดอาหารพร้อมกับเริ่มกำหนดการรับประทานสาหร่ายสไปรูลินาจะได้รับสาร อาหารที่จำเป็นต่อร่างกายเช่นวิตามิน เกลือแร่อย่างพอเพียง สาหร่ายสไปรูลินาจะช่วยให้ท่าลด อาหารอย่างปลอดภัย ผู้ลดอาหารที่รับประทานสาหร่ายสไปรูลินาคู่ไปกับการลดอาหารควรรับประทานสาหร่ายสไปรูลินา1-2 กรัม 10-30 นาทีก่อนอาหารทุกมื้อ ซึ่งวิธีนี้ช่วยให้ลดปริมาณการรับประทานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากสาหร่ายสไปรูลินามีเส้นใยอาหารที่ช่วยให้อิ่มทำให้ควบคุมปริมาณอาหารได้ หญิงหรือชายที่อดอาหารเช้าและกินอาหารเพียงเล็กน้อยหรือดื่มเพียงกาแฟเป็นอาหารกลางวันเพื่อที่จะรักษาทรวดทรงนั้น ทำให้ได้รับวิตามิน โปรตีนหรือธาตุเหล็กไม่เพียงพอแก่ความต้องการ หากขาดสารอาหารนี้นานๆ ก็อาจจะเป็นโรคโลหิตจางก็ได้ ดังนั้นสาหร่ายสไปรูลินาจะช่วยได้โดยทำหน้าที่รักษาสมดุลของสารอาหารในอาหารที่กิน ทั้งนี้เนื่องจากสาหร่ายสไปรูลินาอุดมไปด้วยธาตุเหล็กที่จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือด และนอกจากนี้ยังมีโปรตีนที่มีคุณภาพ สูงประกอบด้วยกรดอะมิโนและแร่ธาตุที่จำเป็นอีกด้วย
สาหร่ายสไปรูลินาช่วยรักษาโรคโลหิตจาง
ระดับฮีโมโกลบินปกติในร่างกายมีมากกว่า 14 กรัม/เดซิลิตรในบุรุษ และมากกว่า 12 กรัม/เดซิลิตรในสตรี ถ้าระดับฮีโมโกลบินในเลือดของท่านอยู่ต่ำกว่านี้ ท่านอาจมีอาการปวดศีรษะ หายใจติดขัด และมีอาการอิดโรย สาหร่ายสไปรูลินาแหล่งของธาตุเหล็กอันยอดเยี่ยม (มีประมาณ 4 มิลลิกรัม/ 4 กรัม) ให้เหล็กถึง 30 - 40% ของที่ ร่างการต้องการในแต่ละวัน ผู้ป่วยจากโรคโลหิตจางไม่เพียงแต่ต้องการเหล็กเท่านั้น แต่ยังต้องการอาหารเสริมที่ส่งเสริมการผลิตเม็ดเลือดในร่างกายอีกด้วย เนื่องจากสาหร่ายสไปรูลินาประกอบด้วยโปรตีน คลอโรฟิลล์ กรดโฟลิค วิตามินบี 12 และแมกนีเซียม จึงอาจจะรักษาโรคโลหิตจางที่เกิดจากการขาดสารอาหารได้อย่างดียิ่ง
สาหร่ายสไปรูลินาให้สารอาหารที่มีคุณค่าระหว่างการมีครรภ์
สาหร่ายสไปรูลินาสริมในอุดมคติของสตรีที่มีครรภ์ เพราะช่วยใน การรักษาความสมดุลของสารอาหารที่รับประทาน อันเป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อสตรี เหล่านี้ทำให้สตรีมีครรภ์สามารถรับประทาน สไปรูลินาได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเป็น ผลร้ายต่อสุขภาพ เพราะสาหร่ายสไปรูลินาได้ผ่านการทดสอบต่างๆ เช่น การทดสอบ สภาพสารพิษเรื้อรัง ที่ยืนยันว่าปลอดภัยในทุกด้านอย่างสมบูรณ์แบบ การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่า สาหร่ายสไปรูลินามีคุณต่อร่างกาย เพราะมีกรด แกมม่า- ไลโนเลอิค (ประมาณ 50 มิลลิกรัมต่อสาหร่ายสไปรูลินา4 กรัม) ซึ่งแก้อาการ ท้องผูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้นักวิจัยหลายท่านได้รายงานผลดีของสาหร่ายสไปรูลินามีต่อกลุ่มแบคทีเรียในลำไส้
สาหร่ายสไปรูลินาถูกรับรองว่าดีต่อผู้ที่ต้องการบำบัดโรคด้วยอาหารที่มีคุณค่าสูง
สุขภาพที่ดีสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับกิจนิสัยในการรับประทาน ในประเทศญี่ปุ่นมีผู้ป่วยมากกว่า 60% มีอาการเจ็บป่วยที่เป็นผลมาจากกิจนิสัยการรับประทานที่ขาดความสมดุล เช่น การดื่มสุราจะก่อให้เกิดสภาพป่วยหลายๆอย่างด้วยกัน เช่นโรคอ้วน เกาท์ ตับอ้วน ตับอักเสบ เบาหวาน โรคเกี่ยวกับการขาดอินซูลิน โรคหัวใจ การอุดตัน ของเส้นเลือดในสมอง โรคความดันโลหิตสูง และโรคโลหิตจาง การรักษาโรค ด้วยยามักไม่เพียงพอ ต้องรักษาด้วยยาควบคู่ไปกับการได้สารอาหาร ซึ่งการรักษาด้วยการให้สารอาหารนี้ท่านสามารถได้จากการรับประทานสาหร่ายสไปรูลินาสริมที่เชื่อถือได้มาเป็นเวลาอันยาวนาน และได้ผ่านการทดสอบยืนยัน ความปลอดภัยโดยการทดลองทางวิทยาศาสตร์มาแล้ว นอกจากนี้เป็นที่คาดหวังว่าสาหร่ายสไปรูลินาสามารถช่วยในการปรับปรุงองค์ประกอบของร่างกาย เพราะมีสารอาหารอัลคาไล-แอช สาร อาหารอันทรงค่ายอดเยี่ยมของสาหร่ายสไปรูลินาสำคัญที่เสริมคุณค่าของอาหาร ทำให้การรักษา โรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สารอาหารของสาหร่ายสไปรูลินาช่วยเสริมการรักษาโรคไขมันในเส้นเลือด
สำหรับผู้ที่มีคลอเรสเตอรอลหรือไขมันในเส้นเลือดสูง ไขมันจะไปเกาะตามผนัง เส้นเลือด ผลลัพธ์ของการที่ไขมันไปเกาะผนังเส้นเลือดทำให้เส้นเลือดแคบลง และเปราะแข็ง ขาดความยืดหยุ่น การถ่ายเทโลหิตติดขัดทำให้เกิดโรคหัวใจและ เส้นเลือดในสมองแตก ผู้ที่ป่วยด้วยโรคไขมันในเส้นเลือด ควรรักษาด้วยการเลือก อาหารที่รับประทานอย่างเคร่งครัดโดยการลดโปรตีนที่มาจากเนื้อสัตว์ ไขมัน เกลือและน้ำตาล อีกทั้งควรเพิ่มการรับประทานอาหารที่มีเส้นใย การทดสอบสาหร่ายสไปรูลินาในห้องทดลองพบว่าฟอสฟาติดิล อิโนซิตอลซึ่งเป็นส่วนประกอบของ ลิปิดที่มีอยู่ในสาหร่ายสไปรูลินาสามารถควบคุมคลอเรสเตอรอล, คลอเรสเตอรอล แอลดีแอลและ ระดับไขมันในเส้นเลือดอย่างได้ผล นอกจากนี้ส่วนประกอบของสาหร่ายสไปรูลินาสิ่งที่ขาดไม่ได้ในกระบวน การสร้างพลังงานของหลอดเลือด (ผลการทดสอบโดยคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยโตไก - เอกสารหมายเลข -37, 1329 - 1337, 1988)
การใช้สาหร่ายสไปรูลินาบำบัดผู้ป่วยโรคตับ
วิธีการรักษาพื้นฐานสำหรับผู้ป่วยโรคตับคือการให้พักเพื่อป้องกันและซ่อมแซมตับ และมักจะให้อาหารที่มีโปรตีนและวิตามินสูงเพื่อรักษาการทำงานของตับ สาหร่ายสไปรูลินาดมด้วยวิตามินและเกลือแร่เป็นสารอาหารเสริมชั้นเยี่ยมยอดประเภท หนึ่งที่ใช้รักษาการทำงานของตับและช่วยปกป้องตับ
การใช้สาหร่ายสไปรูลินาบำบัดผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ขาดอินซูลิน
โรคเบาหวานที่เกิดจากการขาดอินซูลินทำให้การใช้คาร์โบไฮเดรทลดลงในขณะที่ระดับกลูโคสในเลือดสูงมาก ผู้ป่วยที่ไม่ได้ได้รับการรักษาจะมีอาการต่างๆ ที่แทรกซ้อนด้วยโรคเกี่ยวกับไต ปลายประสาท และเนื้อเยื่อชั้นในของดวงตา การรักษา โรคเบาหวานที่ขาดอินซูลินประกอบด้วยการควบคุมอาหารประจำวันที่จะรับประทาน ผู้ป่วยจะต้องลดอาหารลงและเสริมด้วยสารอาหารที่จำเป็นในปริมาณสมดุล อีกทั้งได้ใยอาหารด้วย สาหร่ายสไปรูลินาสิ่งเดียวสามารถสนองตอบความสมดุลนี้ เพราะประกอบด้วยโปรตีนและส่วนประกอบสารอาหารประเภทเกลือแร่ วิตามิน อันทรงคุณค่าต่อการสร้างพลังงานในปริมาณมหาศาล (การทดสอบทำโดย วิทยาลัยสาธารณสุขชิบา - เอกสารหมายเลข 44, 273 - 277, 1991
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น