07 พฤษภาคม 2561

ใช้เงินทำงาน วิธีสร้างรายได้สร้างความมั่งคั่งร่ำรวย ที่มนุษย์เงินเดือนต้องรู้

ใช้เงินทำงาน วิธีสร้างรายได้สร้างความมั่งคั่งร่ำรวย ที่มนุษย์เงินเดือนต้องรู้



          มนุษย์เงินเดือน ได้เงินเท่าไรก็ใช้หมดภายในเดือนนั้นๆ ปกติในช่วงเริ่มต้นของการทำงาน ถึงแม้เงินเดือนจะน้อย  แต่ก็ยังมีเงินเหลือเก็บ แต่เมื่ออายุงานมากขึ้น ตำแหน่งหน้าที่การงานสูงขึ้น มีรายได้เพิ่มมากขึ้น แต่แล้วทำไม  เงินไม่มีเหลือให้เก็บ  แถมเงินที่มีก็ไม่พอใช้  รายจ่ายและภาระหนี้สินก็เพิ่มขึ้นทุกปี  แล้วเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ก็เพราะขาดแผนทางการเงินและไม่รู้วิธีใช้เงิน จึงทำให้เงินที่ได้มาหมดไปกับค่าใช้จ่ายเพื่อโอ้อวดและการแสดงฐานะเช่น การกู้เงินซื้อรถ ซื้อบ้าน ซื้อมือถือเพราะเข้าใจว่าเป็นทรัพย์สิน แต่แท้จริงแล้วเป็นค่าใช้จ่ายหรือหนี้สิน ก่อนที่จะนำเงินไปลงทุน



           ข้ออ้างสำหรับคนซึ่งไร้แผนทางด้านการเงินเช่น เงินทุนมีน้อย ไม่มีความรู้ ไม่มีโอกาสเหมือนกับคนอื่น ไม่มีเวลา แค่ทำงานประจำวันก็เหนื่อยมากแล้ว  จึงขาดการพัฒนาความรู้ทางการเงินและการลงทุน นอกจากนี้ความรู้ที่ได้เรียนมาจากสถานบันการศึกษาก็ไม่ได้สอนเรื่องเงิน ฟังดูเหมือนว่าเงินๆ ทองๆ การลงทุนเป็นเรื่องยาก  จึงไม่สนใจใคร่อยากที่จะเรียนรู้ นอกจากจะไม่มีเงินเก็บแล้ว ยังทำให้เงินเดือนที่เก็บไว้บ้างก็ยังมีค่าลดน้อยลงกว่าเดิมทุกๆปี



          ถึงแม้การทำงานประจำจะให้ความมั่นคงได้ แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยง หากต้องการเงินเพิ่ม ก็สามารถทำโอทีได้ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ตลอดไป เพราะมักจะถูกจำกัดจากนายจ้าง ข้อเสียจากการทำงานอย่างหนักด้วยการทำโอที ไม่สามารถวางแผนเวลาให้กับสิ่งอื่นๆที่สำคัญได้เช่น ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ไม่มีเวลาดูแลครอบครัว จึงทำให้ชีวิตขาดความสมดุล  “not work life balance”



        ดังนั้นความรู้ทางการเงินจึงกลายเป็นเรื่องจำเป็น ที่มนุษย์เงินเดือนต้องรู้ โดยสามารถปรึกษาผู้รู้หรือคนเชี่ยวชาญด้านการเงินช่วยแนะนำเช่น อ่านหนังสือทางการเงิน ดูทีวีช่อง Money Channel ฟังวิทยุ หรือเข้าร่วมฟังสัมมนา นอกจากนี้ปัจจุบัน ยังมีนักจัดการทางการเงินมืออาชีพช่วยดูแลและจัดการด้านการเงินแทนเราได้



          ประโยชน์ความรู้ทางการเงินการลงทุน สามารถช่วยทำให้เรากลายเป็นคนใช้เงินเป็น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  ไม่มีหนี้สิน  มีเงินเหลือเก็บ สามารถนำเงินที่ได้จากค่าแรงไปลงทุนซื้อทรัพย์สิน ที่สามารถสร้างผลตอบแทนเป็นเทคนิคการ ใช้เงินทำงาน เพื่อทำให้เงินงอกเงย เมื่อมีทรัพย์สินมากยิ่งขึ้น จนไม่ต้องไปทำงานแลกกับเงินอีก เราก็จะกลายเป็นคนที่มีมั่งคั่งทางการเงินและสามารถออกจากงานก่อนวัยเกษียณได้  สิ่งนั้นคือเป้าหมายของชีวิตมนุษย์เงินเดือน



          ใช้การวางแผนทางการเงินและใช้เงินทำงาน เพื่อลดภาระและลดการทำงานอย่างหนัก ปรับสมดุลชีวิตใหม่ ด้วยเคล็ดลับสร้างความมั่นคงทางการเงินด้วยเทคนิค ใช้เงินทำงาน ฉบับบมนุษย์เงินเดือน ที่นักวางแผนทางการเงิน Jerry Lynch ได้กล่าวไว้ดังนี้








7 เรื่องทางด้านการเงิน ใช้เงินทำงาน แบบมนุษย์เงินเดือนต้องรู้





    1. ก่อนจะใช้เงินทำงานต้องเรียนรู้วิธีลงทุน  โดยทั่วไปคนรวยมักมีจุดกำเนิดความร่ำรวย มาจาก 4 ด้านด้วยกัน คือ



  • การได้รับมรดกตกทอด จากรุ่นสู่รุ่น คุณปู่โอนให้พ่อ พ่อโอนให้ลูก เป็นธรรมชาติที่คนรวยมักจะรวยขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนรวยรวยมักได้รับการถ่ายทอด ความรู้ด้านการเงินการลงทุน ที่สอนให้กับรุ่นถัดไปได้ และนอกจากนี้ยังมี Connection กับคนรวยด้วยกัน

  • การลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ บ้านทำเลทอง ที่ดินขนาดใหญ่ คนรวยในอดีตถึงปัจจุบันจึงมักครอบครองที่ดิน ที่มีมูลค่ามหาศาลแล้วหาประโยชน์จากที่ดินนั้นเช่น ให้คนอื่นเช่า แบ่งเป็นแปลงย่อยขาย สร้างคอนโด บ้านเช่า

  • การทำธุรกิจก่อตั้งบริษัทขนาดใหญ่โตและมีระบบในการจัดการ สามารถจ้างคนที่มีความรู้ ความชำนาญ ใช้มืออาชีพทำงานให้ตนเอง คนมีความรู้จะช่วยสร้างและพัฒนาระบบในการจัดการ ทำให้บริษัทเจริญเติบโต และมีกำไรอย่างต่อเนื่อง

  • การออมเงินในปริมาณมาก ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน คนรวยประเภทนี้ยุคปัจจุบันทำได้ค่อนข้างยาก เพราะการออมเงินด้วยการฝากธนาคาร ไม่สามารถทำให้ตนเองรวยได้  แต่การออมก็ยังเป็นเทคนิคพื้นฐานสำหรับคนรวย แต่เปลี่ยนรูปแบบการออมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจเช่น ออมในหุ้น



         จุดกำเนิดความร่ำรวยคือ วิธีการสร้างเงินของคนรวย ตามความถนัดและความสามารถทักษะของแต่ละคน ปัจจุบันความรู้ในการลงทุน สามารถค้นคว้าได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีต้นทุนที่ถูกมาก สามารถเข้าไปถาม Google ได้ เพราะมักจะมีคำตอบให้ทุกคำถาม  เรามักได้ยินบ่อยครั้งอิสภาพทางการเงินจากการมีรายได้แบบ Passive Income นั่นคือสามารถหยุดทำงานได้ โดยที่รายได้ไม่หยุด



          กระแสการลงทุนในธุรกิจที่กำลังมาแรง คือ E-commerce การค้า-ขายออนไลน์ แต่ที่กำลังแนะนำต่อไปนี้คือ การลงทุนในตลาดทุน เป็นการลงทุนแบบให้เงินทำงาน แล้วให้ผลตอบแทนสมเหตุสมผล ซึ่งรายได้จะมาจากการปันผล เงินปันผล หุ้นปันผลและส่วนต่างราคาจากการขายหุ้น แต่การลงทุนในหุ้น  โดยส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จต้อง “ลงทุนระยะยาว” ถึงจะกลายเป็นผู้ชนะในตลาดได้ และต้องลงทุนแบบผู้มีความรู้การลงทุน แหล่งความรู้เรื่องหุ้นที่เหมาะสมสำหรับผู้เริ่มต้นได้แก่ www.tsi.com,www.settrade.com เป็นต้น





         2.  ก่อนจะใช้เงินทำงานต้องออมเงิน การเก็บออมเป็นจุดเริ่มต้นของเศรษฐีได้ ความรวยจากการออมในปัจจุบันไม่เป็นเหมือนในอดีต เพราะดอกเบี้ยจากการฝากเงินในอดีตสูงมาก รูปแบบการออมในรูปแบบเดิมๆ ด้วยวิธีนำเงินไปฝากไว้ในธนาคารอย่างเดียวคงไม่ได้แล้ว  เพราะดอกเบี้ยต่ำ แต่ไม่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ จึงทำให้มูลค่าเงินของเราลดลง การออมที่มีความเหมาะสมกับยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้คือ ออมในหุ้น หรืออมด้วยการซื้อสินทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ แต่ผลตอบแทนการลงทุนต้องไม่น้อยกว่า อัตราเงินเฟ้อที่เฉลี่ยประมาณ 3 % กว่าๆต่อปีได้  เคล็ดลับการออมในหุ้นง่ายๆเช่น การซื้อกองทุนรวม LTF กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  RMF เพราะมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลการลงทุน



         ข้ออ้างสำหรับคนไม่ได้ออมเช่น รายได้ไม่มาก ยังมีภาระเยอะต้องใช้หนี้อีกมากมาย ลูกยังเล็กค่าใช้จ่ายเยอะ ขอผ่อนบ้าน-ผ่อนรถให้หมดก่อนแล้ว หากมีเงินเหลือใช้แล้วจึงค่อยเก็บออม  ซึ่งเป็นนานาเหตุผล แต่เคล็ดลับสำหรับคนชอบออมคือ ต้องออมให้เป็นนิสัยคือ เมื่อได้รับเงิน ต้องออมก่อนที่จะนำเงินไปใช้จ่าย การเก็บออมขอให้ทำเป็นประจำ ต่อให้เกิดวิกฤตก็ต้องออม  ข้อคิดของการออมคือ คนเรามีความสามารถบริหารจัดการเงินได้ดี หากมีรายได้น้อยก็ยังสามารถบริหารเงินให้เพียงพอต่อการใช้ในชีวิตประจำวันได้ และถึงแม้ว่าจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น เราก็ยังสามารถใช้เงินได้หมดเช่นกัน ดังนั้นให้เราออมเงินก่อนที่จะนำไปเป็นค่าใช้จ่าย





           3.  การใช้เงินทำงานต้องสร้างแผนสำรองเสมอ เป็นการสร้างแผนเพื่อเอาไว้รับมือในกรณี ที่ผลลัพธ์จากการลงทุนในหุ้นไม่เป็นไปตามสิ่งที่คาดการณ์ไว้ เพราะโลกปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ สังคม เกิดขึ้นรวดเร็วมาก นั้นต้องสร้างแผน เพื่อรองรับความปกติจากการเปลี่ยนแปลง สมมุติแผน X เราสามารถใช้ได้ดี  แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป เรามักจะพบว่าแผนนั้นไม่สามารถ ให้ผลลัพธ์ตามที่เราต้องการได้ จากเหตุการณ์นี้ คนที่ประสบความสำเร็จโดยส่วนใหญ่ มักจะขจัดความไม่แน่นอนหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตไว้เสมอ และสำหรับคนที่ใช้เงินทำงานในหุ้นต้องมีเทคนิคพื้นฐาน การแบ่งเงินเป็นก้อนหลายตระกร้า เพื่อลดความเสี่ยง และที่สำคัญก้อนเงินสำหรับลงทุนในหุ้นต้องเป็นเงินเย็น เพราะการลงทุนต้องอาศัยเวลา







            4. การใช้เงินทำงานต้องเริ่มต้นให้เร็ว ช้าอย่างเต่าชนะเสมอ  หมายถึงให้เริ่มต้นลงทุนทางการเงินเมื่ออายุยังน้อย เพราะความสำเร็จ มักต้องการเวลาเสมอ การลงทุนในหุ้นต้องอาศัยการเรียนรู้และประสบการณ์  พยายามศึกษาหาความรู้การเงินการลงทุนเพิ่มเติม  เพราะการเก็บออมและการลงทุนได้เร็ว ยังมีเวลาเหลือพอที่จะได้เรียนรู้และการใช้บทเรียนจากความล้มเหลวไปสร้างโอกาสแห่งความสำเร็จ อายุยังน้อยสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงได้ จึงมีโอกาสทำให้ทรัพย์สินมีการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ 





           5. การใช้เงินทำงานต้องมีคนเก่งคอยช่วย เป้าหมายการทำงานของ Jerry Lynch ก็คือ “เป็นคนที่โง่ที่สุดในที่ทำงาน” เพราะนั่น หมายความว่าเขาได้อยู่ท่ามกลางคนเก่ง มีคนฉลาดมากมาย ที่ช่วยทำให้ทุกการตัดสินใจใหญ่ๆ ของเขามักมีสุดยอดที่ปรึกษา คอยชี้แนะก่อนลงมือทำการสิ่งใด เพราะไม่มีใครเก่งทุกเรื่อง ดังนั้นการ ยอมรับข้อจำกัดของตนเอง ย่อม ทำให้เราสามารถดึง ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ มาช่วยทำให้ทุกการตัดสินใจ ดียิ่งขึ้น มีความละเอียดรอบคอบมากยิ่งขึ้น ความเสี่ยงก็น้อยลง โอกาสประสบความสำเร็จก็จะยิ่งมีมากขึ้น วิธีร่นระยะเวลาในการสร้างเงินโดย ใช้เงินทำงาน วิธีลงทุนในหุ้นคือการใช้ผู้เชี่ยวชาญชี้แนะแนวทางแห่งความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ ทักษะด้านต่างๆเช่น ความรู้ด้านเทคนิคและคุณภาพ การวิเคราะห์ตัวเลขและประเมินงบทางการเงิน





          6.  การใช้เงินทำงานต้องปฎิเสธ แทนที่จะตอบรับเมื่อไม่พร้อม จะทำให้เรามีเงินเหลือมากขึ้น การเจรจาการสนทนาทางธุรกิจ อาจไม่ใช่ข้อตกลงที่ดี ในช่วงเวลานั้น อาจไม่เหมาะสมที่เราจะตัดสินใจเซ็นต์สัญญา เมื่อรู้ว่าไม่พร้อมหรือผลลัพธ์จากการเจรจา มันไม่ช่วยทำให้ได้รับผลประโยชน์ที่มีคุณค่าพอ เราควรนำข้อมูลกลับมาศึกษาเรียนรู้มันใหม่  ค่อยเริ่มต้นกระบวนการต่อรองใหม่อีกครั้ง จนกว่าเราจะได้ในสิ่งที่ต้องการจริงๆ เพราะนั่นย่อมดีกว่าการเสียเงินไป กับเรื่องที่เราได้ผลตอบแทนที่ต่ำ การตัดสินใจและช่วงเวลาในการเลือกซื้อหุ้นจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ หากราคาหุ้นตัวที่เรากำลังสนใจแพงจนเกินไปควรปฏิเสธ แล้วรอโอกาสใหม่





           7.  การใช้เงินทำงานต้องเข้าใจว่าทุกอย่างมันมีโอกาส มีความเป็นไปได้ ที่จะไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ได้เสมอ  การมีความละเอียดรอบคอบและการศึกษอย่างละเอียดก่อนการลงมือทำ ก่อนที่จะหาเงินจากการ ใช้เงินทำงาน ในหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง ต้องรู้ว่าอะไรที่มันเป็นไปได้บ้าง แล้วจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เมื่อเราลงทุนไปแล้วระยะเวลาหนึ่ง สำคัญอยู่ที่ต้องมีแผนรองรับ แล้วคอยเฝ้าระวังในสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ การเตรียมความพร้อมให้ทุกด้าน ทั้งความฉลาดทางด้านปัญญาและความฉลาดทางด้านอารมณ์




CR  ::   https://success4tips.blogspot.co.uk/2018/05/blog-post_68.html



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น