13 พฤษภาคม 2561

18 สัญญาณ! ว่าคุณกำลังมี หัวหน้า ที่น่ากลัว

18 สัญญาณ! ว่าคุณกำลังมี หัวหน้า ที่น่ากลัว































ว่ากันว่า, ‘หัวหน้า’ ก็เหมือนกับ ‘หัวใจ’



หากหัวหน้าเจ็บป่วย ก็พลันทำให้จิตใจของเราไม่สบายตามไปด้วย…ผลประกอบการของหัวหน้าลดลงที จิตใจก็ไขว้เขวลงตาม…หัวหน้าล้มละลายที คงไม่ต้องพรรณนาว่าจิตใจของเราจะเจ็บปวดร้าวรานสักเพียงใด เพราะนั่นหมายถึง…แล้วเงินเดือนกูล่ะ! หัวหน้าที่ดีจึงส่งผลให้ลูกน้องดีตามไปด้วยเสมอ หากหัวหน้า ‘น่ารัก’ ก็พานจะมีแต่คนรักใคร่ แนบชิด สนิทสนม ราวกับสัตว์เลี้ยงที่แสนซื่อสัตย์ยังไงยังงั้น


หัวหน้าทุกคนจึงมีเงามืดที่แอบซ่อนอยู่ภายใน รอวันที่จะเผลอไผลแสดงตนได้ทุกเมื่อ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เมื่อหัวหน้ามีเงามืด…เราทุกคนต่างก็มีเงามืดของตัวเองเช่นกัน แต่นี่คือ 18 สัญญาณว่าหัวหน้าของเรากำลังจะเริ่ม ‘น่ากลัว’





ผม never, ever wrong!



หากหัวหน้าของเราเป็นพวกประเภท… “ผมไม่เคยผิดเลย!” นั่นหมายถึงว่าเขากำลังเริ่มทำให้ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน หรือตัวเราเองรู้สึกอึดอัดใจในการทำงาน การยอมรับว่าบางครั้งเราเป็นคนผิดบ้างเป็นสิ่งที่เราทุกคนควรพึงกระทำในการทำงาน Lynn Taylor นักวิจัยและที่ปรึกษาชื่อดังค้นพบว่า 91% ของลูกจ้างกล่าวว่าการที่หัวหน้ายอมรับว่าตนเองเป็นคนผิดบ้างเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกน้องพึงพอใจในการทำงาน และสามารถทำงานได้อย่างมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น หากหัวหน้าของคุณมีอาการแบบนี้เมื่อไหร่ ก็ขอให้ใจเย็นๆ และปล่อยผ่านมันไป…โดยตั้งเป้ากับตัวเองว่าเราจะทำให้ดีที่สุด ก็พอ


ตกคำรับปาก



หากหัวหน้าของเราชอบ ‘ตบปากรับคำ’ อย่างไม่เคยปฏิเสธแม้แต่วลีเดียว พอเอาเข้าจริง กลับเงียบหาย ทำเนียนลืมไปเสียอย่างนั้น ขอให้รู้ไว้ว่านั่นแสดงถึงความไม่ใส่ใจ ขาดการไตร่ตรอง และรักษาสัจจะกับลูกน้อง หากไม่มีการตอบกลับผ่านทางอีเมล์ วาจา การกระทำ หรือเครือข่ายไร้สายต่างๆ…ขอให้พวกเราจงระวังความ ‘น่ากลัว’ นี้ไว้ครับ


คาดหวังจนลืมหลัง



แน่นอนว่าใครหลายคนก็ล้วนอยากเป็นเหมือนคนที่เราชื่นชอบ เหมือนคนที่ประสบความสำเร็จกันทั้งนั้น แต่เจ้านายที่ดีควรรู้ว่าความแตกต่างที่ไม่เหมือนใครของลูกน้องแต่ละคน จะสามารถช่วยพัฒนาให้ทีมมีศักยภาพที่ดีได้ การคาดหวังมากจนเกินไปที่อยากให้ลูกน้องเป็นเหมือนคนนั้น เป็นเหมือนตนเอง เป็นเหมือนแนวทางที่ตัวเองต้องการ คอยกำกับทุกกระบวนท่า…ตั้งแต่รูขุมขนจรดหัวเท้า จะทำให้ลูกน้องอย่างเราๆขาดความมั่นใจ และไม่สามารถทำงานได้ดีอย่างเต็มที่ หากเจ้านายของเรามีอาการแบบนี้ ขอให้เรารักษาจุดยืนของเราไว้ บางครั้งวิธีที่ดีที่สุด ก็คือการเป็นตัวของตัวเอง เชื่อในสิ่งที่เราทำ…แล้วเขาจะเชื่อมั่นในสิ่งที่เราเสนอ


ไม่เว้นแม้วันหยุด



หากเรากำลังนั่งเอนกายหย่อนใจอย่างสบายอารมณ์ในวันหยุดที่ไหนซักแห่ง ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังเปรี้ยงปร้างขึ้น ปรากฏว่าเป็นบอส! เจ้านายสุดแสนน่ารักของเรานั่นเอง ขอให้เรารับสาย แต่พยายามบ่งบอกให้เขารับรู้ว่านี่คือวันหยุดของเรา หากเป็นงานที่เร่งด่วนจริงๆ ก็ขอให้เขารอหน่อย และกำหนดวันเวลาที่เสร็จสิ้นไป เชื่อว่ายังไงหัวหน้าก็เข้าใจเรา…เพราะเขาต้องเคยผ่านขั้นตอนการเป็นลูกน้องมาแล้วทั้งนั้น


เผด็จการปราบปรามลูกน้อง



หากเจ้านายของเราชอบวางอำนาจ ยกตนข่มข้าศึก ชอบเอาชนะคลับคล้ายจะเป็นฮิตเลอร์ จนทำให้เรารู้สึกอึดอัด กระมิดกระเมี้ยนเคลื่อนตัวทีก็ลำบาก อาจส่งผลอันร้ายแรงต่อการทำงานและบริษัทของเราได้ ขอให้รู้จักการเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆล่วงหน้า ทำทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้ให้ครบ ส่งอีเมล์ ตอบลูกค้า จัดการภารกิจต่างๆที่เราถูกมอบหมาย ขาดตกหล่นไปบ้างก็ไม่เป็นไร แต่พยายามให้น้อยที่สุด…เจ้านายของเราก็จะพบว่าไม่ต้องไปก่อกวนจุกจิกอะไรกับเรามาก หลังจากนั้นเขาจะปล่อยให้เราโลดแล่นละเลงงานด้วยตัวเราเอง แต่อย่าเผลอไผลเพลิดเพลินจนลืมคำนึงถึงคุณภาพและความรอบคอบของงานล่ะครับ มิเช่นนั้น, นายพล อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ อาจแวะเวียนกลับมาหาเราอีก


สวมหูหนวก



หากเจ้านายของเราไม่นิยมสวมหูฟัง แต่ชื่นชอบการ ‘สวมหูหนวก’ ตีเมิน ไม่รับฟังอะไรทั้งนั้น ไม่อยากได้ยินความเห็นใครทั้งสิ้น ขอให้เราพยายามเลี่ยง อย่าโต้เถียงหรือตะแครงแย้งใดๆ เพราะขณะนั้นเขาได้หูหนวกไปเรียบร้อยแล้ว หาจังหวะเวลาที่หัวหน้าอารมณ์เย็นลงแล้วค่อยเข้าไปสู้รบใหม่อีกที หรือลองเปลี่ยนวิธีการโต้แย้งแล้วลองพยายามหาทางประนีประนอม จะทำให้หัวหน้าของเราเริ่มรับฟังสิ่งต่างๆได้ชัดเจนยิ่งขึ้น บางครั้งการ ‘ถอย’ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะแพ้เสมอไป…ในขณะเดียวกันคนที่ ‘บุก’ ก็ไม่ได้จะชนะเสมอไปเช่นกัน


Out of Sight…ไม่อยู่ในสายตา



เราอาจจะเคยได้ยินวลีเจ็บๆโดนๆที่ว่า “ไม่ใช่ว่ามองไม่เห็น…แต่ไม่เคยอยู่ในสายตา” หากเจ้านายของคุณชอบยึดวลีนี้เป็นสรณะ จงระวังเข้าไว้ เพราะทำดีแค่ไหนก็ไม่เคยเห็นคุณค่า แต่ขอจงอย่าท้อแท้ และหมดหวัง ทำให้ดีที่สุด รักษาคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ ถึงหัวหน้าจะไม่เห็น แต่คนอื่นเห็นแน่นอนครับ อย่างน้อยๆ…ถึงไม่มีใครเห็นค่า แต่สุดท้ายแล้วผลดีก็เกิดแก่ตัวเราเองต่างหาก


ตอบไม่ตรงคำ ‘ตอบ’



เคยเป็นไหมครับที่บ่อยครั้งเมื่อเราถามคำถามหัวหน้าเกี่ยวกับตัวงานต่างๆที่เราทำ แล้วเขามักจะตอบแบบกำกวม หรือไม่ตรงคำถาม ชนิดที่ทำเอาเรามึนตึ้บไปตามๆกัน นั่นก็เพราะว่าบางทีหัวหน้าของเราอาจมีหลายเรื่องที่ต้องคิดต้องทำ จนบางครั้งเขาอาจเผลอไผลและไม่ได้ตั้งใจที่จะคลี่คลายปัญหาให้เราอย่างจริงจัง หัวหน้ามักเป็นคนที่ดูแลภาพรวมเสมอ ลองเลี่ยงไปปรึกษาหัวหน้างานคนอื่นดู หรือถามคนที่แก่วิชาที่สุดในออฟฟิศของเราก็ได้ หลังจากนั้นค่อยเข้าไปแจงให้หัวหน้าฟังว่าอย่างนี้ถูกต้องไหม จะทำให้เราชัดเจนในเนื้องานอย่างถ่องแท้มากขึ้น อีกทั้งยังทำให้หัวหน้าเห็นถึงความกระตือรือร้นของเราอีกด้วย


ปฏิเสธเรื้อรัง



“ผมไม่ฟัง” / “ผมไม่เอา” / “ผมไม่รู้…ลองหาทางเอาดู” บ่อยครั้งหัวหน้าที่น่ารักน่าชังของเรา มักจะบอกปัดเราด้วยประโยคเหล่านี้ นั่นเป็นเพราะเขาอาจไม่มีความใส่ใจมากพอ ลองสังเกตคนอื่นๆดูว่าเขาทำอย่างไร ถึงจะเรียกความสนใจจากหัวหน้าได้ ไม่ใช่พอเขาบอกปัด เราก็ละทิ้งเสียเอาเฉยๆ ถึงเวลาส่งงานจริง ยังทำไม่เสร็จ ทำไม่ทัน หัวหน้าก็ไม่รับฟังอยู่ดี


หลง(ลืม)ตัวเอง



บ่อยครั้งที่หัวหน้าของเรามักจะโค้งรับความยินดีชมชอบไว้เพียงแต่ผู้เดียว ทั้งที่ความเป็นจริง, ความสำเร็จเหล่านั้นล้วนมาจากน้ำพักน้ำแรงของทุกๆคน ขอให้เชื่อไว้เถอะครับว่า DNA เผด็จการ มีอยู่ในตัวหัวหน้าทุกคน ขอให้เราร่วมยินดีไปกับเขาด้วย แต่คราวหน้าคราวหลังก็ลองแซะๆบอกเป็นนัยกับเขาเสียหน่อยว่า… “งานชิ้นนี้ทำยากมากเลย ผมตั้งใจกับมันมาก แต่ก็รู้สึกชื่นใจที่ผมได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้” รับรองว่าต้องมีฉุกคิดเป็นอย่างแน่


แปรปรวนคงที่



เช้าบอกอย่างนึง…ตกบ่ายบอกอีกอย่างนึง บ่อยครั้งที่หัวหน้าของเรามักจะมีอาการขึ้นๆลงๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้ จนทำให้เราสับสน และครุ่นคิดกับตัวเองเสมอว่า “ยังไงกันแน่ว่ะเนี่ย!” อย่าตกใจและวู่วามไป เลือกคำแนะนำหรือคำบอกกล่าวของหัวหน้าในเรื่องที่เราคิดว่ามีประโยชน์กับเรามากที่สุด หากหัวหน้าพบว่าการตัดสินใจของเราไม่ดีพอ เขาจะบอกเราเองแหละ จำไว้เสมอว่า…บางครั้ง, การตัดสินใจที่ดีที่สุด คือ การตัดสินใจที่มาจากตัวเราเอง


ประจานตา



หัวหน้าของคุณชอบต่อว่าคุณต่อหน้าเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆหรือเปล่า? หัวหน้าที่ดีจะรู้ว่าการสนทนาเชิงต่อว่าลูกน้องนี้จะต้องปะทะกันในที่ส่วนตัวเท่านั้น การต่อว่าลูกน้องต่อหน้าคนอื่น เป็นการบ่งบอกว่าหัวหน้าของเราไม่มีความเป็นผู้ใหญ่และไม่รู้จักให้เกียรติคนอื่นเอาเสียเลย ขอแนะนำว่าให้เราใจเย็นๆ และกล่าวขอโทษเขาเมื่อต้องปะทะคารมณ์กัน ถึงแม้ว่าความผิดพลาดนั้นมันจะไม่ใช่ ไม่ใช่ และไม่ใช่…ความผิดของเราเลยก็ตาม แต่ลองขอโทษในเชิงที่ว่า “ผมขอโทษด้วยที่ทำให้คุณหงุดหงิด” หรือ “ผมขออภัยด้วยหากทำอะไรผิดพลาดไป” เชื่อเถอะว่ามันจะทำให้หัวหน้าของคุณฉุกคิดได้ว่านี่อาจไม่ใช่ความผิดของคุณจริงๆ และยังแสดงให้เห็นด้วยว่าเรามีความเสียสละ และมีความรับผิดชอบที่ดีพอ


ตัวโต, ตำแหน่งไม่โต



หากหัวหน้าของเราไม่เคยฉายตามองถึงการให้โอกาสเลื่อนตำแหน่ง ปรับเงินเดือน หรือเพิ่มความก้าวหน้าให้กับเราเลย นั่นก็แสดงว่าหัวหน้าของเราเริ่มจะ ‘น่ากลัว’ แล้วล่ะครับ เว้นเสียแต่ว่า…เราไม่เอาอ่าวจริงๆ หัวหน้าที่ดีจะต้องมองหาโอกาสให้ลูกน้องได้เจริญเติบโต และก้าวหน้าไปพร้อมๆกับบริษัท นอกจากจะช่วยพัฒนาศักยภาพของลูกน้องอันส่งผลถึงบริษัทแล้ว ยังเป็นการซื้อใจและเสริมความเชื่อใจให้กับลูกน้องอีกด้วย เหมือนดังคำกล่าวที่ว่า…หากอยากเก่งในสิ่งใด จงอย่าทำสิ่งนั้นฟรีๆ


อรุณสลัด



หากคุณกำลังประสบกับอาการไม่อยากลุกจากเตียงในตอนเช้า รุ่งอรุณทีไร…แทบอยากจะสลัดทุกอย่างทิ้งทันที ไม่เว้นแม้มือถือ เพราะทุกครั้งที่ลืมตาแล้วนึกถึงหน้าของหัวหน้า ก็จะต้องกระวนกระวายเสมอว่าทำไมโลกใบนี้มันช่างโหดร้ายเสียเหลือเกิน สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น (นอกเสียจากจะเปลี่ยนหัวหน้าใหม่) ขอแค่ทำจิตใจให้ดี และคิดเสมอว่างานก็คืองาน เราทำหน้าของเราให้ดีที่สุดก็พอ เมื่อคุณสนุก…โลกทั้งใบก็เป็นของคุณ


มองลูกในแง่ ‘ร้าย’



หากหัวหน้าของเราเป็นพวกชอบบันดาลโทสะ ชอบมองลูกน้องในแง่ร้ายเสมอ ขอให้จงระวังเข้าไว้ เพราะหัวหน้าคุณกำลังเข้าข่าย ‘น่ากลัว’ หากใครทนได้ และตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพื่อเงินอย่างเดียว…ก็ถือว่าดีไป แต่หากใครทนไม่ได้ ก็ต้องลองมาคิดทบทวนถึงการย้ายสำนักใหม่เถอะครับ มิเช่นนั้น, อาจส่งผลต่อการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ และสภาพจิตใจที่ย่ำแย่อีกด้วย


หามรุ่งหามเขา



Working-late


เพิ่งจะแปดโมงครึ่งเอง แต่เรากลับพบว่า…ในอีเมล์ของเรานั้นแน่นขนัดไปด้วยอีเมล์จากหัวหน้า ทั้งเรียกร้อง ทั้งถามหา ทั้งสอบถาม และขอคำตอบ ในทุกสารพันเรื่องที่เกี่ยวกับงาน หรือแม้กระทั่งเราทำงานจนดึกจนดื่น ปาร์ต้งปาร์ตี้ก็ไม่เคยไปทันเพื่อนเขา บ้านช่องก็มีไว้แค่ใช้ส้วม แต่กลับพบว่า…หัวหน้าก็ยังไม่พอใจอยู่ดี หัวหน้าที่ดีต้องตระหนักถึงความสามารถในการทำงานของลูกน้องในหนึ่งวัน มิใช่ว่า, เห็นลูกน้องเป็นเครื่องจักร ไม่ต้องกิน ไม่ต้องเที่ยว ไม่ต้องส้วม อย่งนี้ก็ไม่ไหวครับ ร่างกายจะพังเอาเสียเปล่า


ตีตนไปก่อนไข้



หากหัวหน้าของเราชอบวิตกอย่างไร้เหตุผล กังวลจนเกินเหตุ และทำอย่างกับว่าโลกกำลังจะถึงจุดจบเสียแล้ว ก็หมายความว่าหัวหน้าของเราปฏิบัติตัวไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง หัวหน้าที่ดีจะต้องไม่หวาดระแวงจนเกินไป สงบนิ่งราวกับก้อนหินในแม่น้ำ ครุ่นคิดและไตร่ตรองถึงวิธีที่จะแก้ปัญหาต่างๆ ไม่ใช่กระวีกระวาด โผเข้าโผออก โวยวายเป็นหน้าเป็นหลัง เพียงเพราะ ‘กลัว’ และไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรต่อ


ยืม 1 คืน 0



การขอยืมเงินนั้น ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกหรือน่าขบขันแต่อย่างใด ไม่ว่าจะในหมู่เพื่อน หมู่โจร หรือหมู่ที่ทำงาน ใขขณะเดียวกัน, การที่หัวหน้าขอยืมเงินลูกน้อง เพราะอาจจะลืมกระเป๋าสตางค์หรือบัตรเอทีเอ็ม ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่การขอยืมบ่อยๆจนเคยชิน มิหนำซ้ำ, ความจำยังสั้น ดันไม่ชอบคืนเงินอีกด้วย พฤติกรรมเหล่านี้จะทำให้ลูกน้องหมดความศรัทธาและเคารพนับถือ และยังบ่งบอกได้อีกว่า…หัวหน้าของคุณ ช่างไม่เข้าท่าเอาเสียเลย



บางครั้งการขึ้นรถไฟผิดขบวน…ก็อาจพาเราไปยังสถานีที่ใช่ก็ได้ ลองผิดลองถูกกันไป ตราบที่ยังมีลมหายใจ

CR  ::   MarketingOops.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น