13 เมษายน 2555

การตรวจลงตราสำหรับการเข้ามาเพื่อติดต่อธุรกิจ ใช้ได้หลายครั้งภายใน 3 ปี (Three-Year Non-Immigrant Visa “B” )

การตรวจลงตราสำหรับการเข้ามาเพื่อติดต่อธุรกิจ ใช้ได้หลายครั้งภายใน 3 ปี (Three-Year Non-Immigrant Visa “B” )



คนต่างชาติที่ประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศไทยเพื่อติดต่อธุรกิจ และจำเป็นต้องเดินทางเข้ามาบ่อยครั้ง สามารถขอรับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว รหัส B ใช้เดินทางเข้าประเทศไทยได้หลายครั้ง อายุ 3 ปี (Three-Year Non-Immigrant Visa “B” )
คนต่างชาติที่ได้รับการตรวจลงตราประเภทดังกล่าวสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้หลายครั้ง ภายใน 3 ปี และพำนักได้ครั้งละไม่เกิน 90 วัน ทั้งนี้ ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย



1. สถานที่ยื่นคำร้องขอรับการตรวจลงตรา

     คนต่างชาติที่ประสงค์จะขอรับการตรวจลงตราประเภท Three-Year Non-Immigrant Visa รหัส “B” สามารถยื่นคำร้องขอรับการตรวจลงตราได้ที่สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ของไทยซึ่งตั้งอยู่ในประเทศที่ผู้ขอรับการตรวจลงตรามีถิ่นพำนักเท่านั้น หรือหากไม่มีสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ไทยตั้งอยู่ในประเทศที่ผู้ขอรับการตรวจลงตรามีถิ่นพำนัก ให้ยื่นคำร้องได้ที่สถานเอกอัครราชทูตไทยที่ดูแลประเทศดังกล่าว ทั้งนี้ ไม่สามารถยื่นคำร้องขอรับการตรวจลงตราที่สถานกงสุลกิตติมศักดิ์ของไทย ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้ตรวจลงตราประเภทดังกล่าว

      หากประสงค์จะสอบถามเกี่ยวกับสถานที่ยื่นคำร้องฯ หรือรายละเอียดเกี่ยวกับการขอรับการตรวจลงตราประเภท Three-Year Non-Immigrant Visa “B” สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สถานเอกอัครราชทูตสถานกงสุลใหญ่ของไทย สำหรับที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ดูได้จาก
www.mfa.go.th/web/10.php



2. เอกสารประกอบการยื่นคำร้องฯ 

     - แบบฟอร์มคำร้องขอรับการตรวจลงตราซึ่งกรอกข้อความครบถ้วนสมบูรณ์
- หนังสือเดินทางซึ่งมีอายุการใช้เดินทางที่เพียงพอ
- รูปถ่ายซึ่งถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน
- เอกสารประจำตัว เช่น บัตรประชาชน เอกสารแสดงการมีถิ่นพำนัก
- หลักฐานเกี่ยวกับการทำงานของผู้ขอรับการตรวจลงตรา เช่น ใบรับรองการทำงานจากสถานที่ทำงาน หรือในกรณีที่มีธุรกิจของตนเอง ให้แสดงหลักฐานเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของตน
- หนังสือรับรองการเป็นสมาชิกหอการค้า สมาคมทางธุรกิจ หรือสถาบันอื่นที่เทียบเท่าของประเทศนั้น ๆ
- หลักฐานแสดงว่ามีการติดต่อธุรกิจในประเทศไทยเป็นประจำ เช่น อาจแสดงหนังสือรับรองหรือหลักฐานการติดต่อธุรกิจกับบริษัทหรือหน่วยงานในประเทศไทย พร้อมทั้งแสดงเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับบริษัทดังกล่าว (เช่น หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น รายละเอียดการดำเนินกิจการของบริษัท รายการภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีการค้า ภ.ง.ด.50 ภ.ง.ด.30 ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ภ.พ.20 งบดุลและบัญชีกำไรขาดทุนของบริษัท แผนที่ที่ตั้งบริษัท เป็นต้น )
ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ในแต่ละประเทศอาจขอรับเอกสารประกอบอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณา




3. ค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา 10,000 บาท


หมายเหตุ - การพิจารณาตรวจลงตราขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่
- ค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราที่จ่ายให้สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่แล้วไม่สามารถขอรับคืนได้



http://www.consular.go.th/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น