อาการปวดเมื่อยในผู้สูงอายุ
เวลาไปโรงพยาบาลเคยสังเกตกันบ้างไหมคะว่า แผนกใดที่มีคนมารอพบแพทย์มากที่สุด รองลงมาจากแผนกอายุรกรรม ดิฉันคิดว่าน่าจะเป็นแผนกศัลยกรรม-กระดูก ซึ่งมีคนมารอกันอย่างหนาแน่น เผลอๆ ต้องนั่งรอกันครึ่งค่อนวันกว่าจะได้ตรวจ แน่นอนที่คนส่วนใหญ่มักเป็นผู้สูงวัย บ้างก็เดินกระย่องกระแย่งใช้ไม้เท้าช่วย บ้างก็นั่งรถเข็น เห็นแล้วก็คิดได้ว่า เป็นเรื่องธรรมดาของสังขาร ที่ร่วงโรยไปตามวัย แต่อาการปวดที่ตามมานี่สิ ที่ทำใจยอมรับยาก ทำให้รู้สึกเห็นใจผู้สูงอายุมาก โดยส่วนใหญ่อาการปวดเมื่อยในผู้สูงอายุ จะเป็นกันมากบริเวณ หลัง คอ เอว น่อง และข้อต่างๆ ฯลฯ เรียกได้ว่าแทบจะปวดเมื่อยไปทั้งตัว ซึ่งอาการปวดเมื่อยที่พบบ่อย ได้แก่ ปวดเมื่อยล้าที่มีสาเหตุจากกล้ามเนื้อ... ซึ่งมักจะบอกตำแหน่งเจาะจงไม่ชัด ปวดจากเส้นเอ็น... จะปวดมากหากถูกกดทับ หรือขยับตัวเคลื่อนไหว พบบ่อยบริเวณไหล่ บริเวณมือ ส้นเท้า และเอ็นร้อยหวาย ปวดจากเส้นประสาทถูกกดทับ... มักมีอาการชา ปวดแสบปวดร้อน ร้าวไปตามเส้นประสาท เช่น ถ้าเกิดการกดทับที่เส้นประสาทหลัง จะปวดร้าวลงไปถึงน่องและปลายเท้า หรือบริเวณคอ เมื่อเส้นประสาทถูกทับ จะปวดร้าวลงไปที่แขนและมือ นอกจากนี้ ยังมีการปวดเมื่อยเนื่องจากเส้นเลือดขอด... พบบ่อยบริเวณขาเมื่อต้องยืนนานๆ อาการปวดจากข้อต่อต่างๆ... เช่น ข้อเข่า ข้อเท้า ถ้ามีการลงน้ำหนักก็จะปวด เดินก็ปวด พับหรืองอก็ปวด และอาจมีบวมแดงร่วมด้วย นอกจากนั้นสาเหตุของอาการปวดเมื่อยนี้ยังมาจาก
สรุปอาการปวดเมื่อยเรื้อรัง ของผู้สูงอายุว่าเป็นที่ใดกันมากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นการปวดหลัง เอวที่เกิดขึ้นตามวัย เพราะข้อรับน้ำหนักตัวมากเกินไป หรือมีการบาดเจ็บ ทำให้กระดูกอ่อนตรงผิวข้อต่อสึกกร่อน และมีกระดูกงอก เพราะมีหินปูนมาเกาะขรุขระ เวลาเคลื่อนไหวจึงทำให้ปวดได้ และถ้าเป็นโรคกระดูกพรุน ก็จะทำให้กระดูกเกิดการทรุดตัว โดยเฉพาะกระดูกไขสันหลัง กระดูกสะโพก กระดูกคอ อาการปวดส่วนหลังนี้จะทรมานมาก เพราะคนเราต้องใช้ขาเดินไปไหนมาไหน หากเดินแล้วเจ็บ คงรู้สึกอึดอัดและลำบากพอสมควร ดังนั้นในผู้สูงอายุ ที่มีภาวะกระดูกหลังเสื่อม แพทย์จึงแนะนำให้ใช้ ผ้า support ช่วยพยุงแผ่นหลัง ในบางคนการใช้ไม้เท้าช่วยพยุงตัวเดิน ก็จะลดการรับน้ำหนักของกระดูกลงไปได้บ้าง ส่วนการปวดข้อมัก จะปวดมากเวลาเปลี่ยนท่า นั่ง ยืน การขึ้นลงบันได หรือมักปวดตอนกลางคืน ปวดเวลาที่อากาศเย็นชื้น หรืออากาศเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีอาการปวด เนื่องจากการทำกิจวัตรประจำวัน ด้วยท่าทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น
โดยอาการเหล่านี้ส่งผลทำให้เอ็น และกล้ามเนื้อบริเวณหลัง ต้องออกแรงยืดหดมากไป ทำให้เกิดอาการเมื่อยล้า จนทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ในที่สุด หากเทียบกับคนหนุ่มสาว ที่บางครั้งทำกิจวัตรประจำวัน ด้วยท่าทางที่ไม่ถูกต้องเช่นกัน แต่ไม่มีอาการปวดหลัง ก็เพราะเอ็นและกล้ามเนื้อ ยังอยู่ในสภาพที่แข็งแรงจึงทนได้ แต่ผู้สูงอายุตรงกันข้าม ทั้งเอ็นและกล้ามเนื้อเริ่มเสื่อมสภาพ จึงปวดเมื่อยได้ง่าย หากอาการปวดไม่รุนแรง ก็จะปวดแบบเมื่อยล้าทั่วๆ ไป อยากบิดตัวและเปลี่ยนท่าทางอยู่เสมอ แต่หากปวดมากขึ้นก็ต้องหายามาทาน อาการปวดจึงจะหายไป บางรายเป็นมากและเฉียบพลัน ทั้งปวดหลัง รู้สึกหลังแข็ง ขนาดกระดุกกระดิกไม่ได้ต้องนอนนิ่งๆ ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ทรมานกับการปวดหลังแล้ว ก็ควรหาทางป้องกันง่ายๆ ดังนี้
นอกจากนี้ ยังมีการปวดข้อต่างๆ ที่ผู้สูงวัยเป็นกันมาก เนื่องจากข้อเสื่อมและกระดูกพรุน ซึ่งมักเกิดกับข้อใหญ่ๆ เช่น ข้อสะโพก ข้อกระดูกสันหลัง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อเข่า พบได้ในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย เนื่องจากเป็นผลของฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ขาดไป สาเหตุของโรคกระดูกพรุน อีกทั้งขาดการออกกำลังกายในวัยหนุ่มสาว พอเริ่มอายุมากน้ำหนักก็เพิ่มมากขึ้น ทำให้เข่าต้องแบกน้ำหนักส่วนเกิน กล้ามเนื้อจึงหย่อนสมรรถภาพลง จึงทำให้เป็นโรคเข่าเสื่อมได้ง่าย โดยร่างกายจะส่งสัญญาณเตือน ให้เรารู้ว่าเข่ากำลังมีปัญหาจาก...
อย่างไรก็ตาม อาการข้อเสื่อมนี้ ก็ใช่ว่าจะป้องกันไม่ได้ซะทีเดียว ที่สำคัญไม่ควรปล่อยให้เป็นมาก แล้วค่อยไปหาทางรักษา เพราะจะรักษายาก โดยทำตามคำแนะนำดังนี้
ไม่ว่าใครก็ไม่อยากแก่ และเจ็บป่วยทั้งนั้น แต่เนื่องจากไม่สามารถฝืนกฎธรรมชาติได้ ดังนั้น เราก็ได้แต่ดูแลรักษาร่างกายตัวเอง ให้แข็งแรงอยู่เสมอ พร้อมป้องกันและรับมือ กับโรคภัยไข้เจ็บที่จะเกิดในวันข้างหน้า เพราะหากจะเป็น ก็ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ร่วมสร้างสุขภาพที่ดี และเอาใจใส่ตัวเองเสียตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้ร่างกายทำหน้าที่ได้ดี และอยู่กับเราไปอีกนานๆ |
แหล่งข้อมูล : นิตยสาร - HealthToday
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น