หลักเกณฑ์การตรวจลงตราแก่คนต่างด้าวที่เดินทางมาจากประเทศที่เป็นเขตติดโรคไข้เหลือง
กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกระทรวง เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2547 และ 8 เมษายน 2553 ให้ผู้เดินทางที่มาจากประเทศที่เป็นเขตติดโรคไข้เหลือง ต้องปฏิบัติดังนี้ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเขตติดโรคไข้เหลือง จะต้องมีใบสำคัญรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เหลือง ใบสำคัญรับรองนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ได้ภายหลังการฉีดวัคซีนแล้ว 10 วัน และจะต้องมีอายุไม่เกิน 10 ปี ในรายที่มีการฉีดวัคซีนซ้ำภายในเวลา 10 ปี นับจากการฉีดวัคซีนครั้งแรกจะเริ่มมีผลใช้ได้นับตั้งแต่วันที่ฉีดวัคซีน ถ้าผู้เดินทางผู้ใดไม่มีใบสำคัญรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เหลืองดังกล่าว ผู้นั้นอาจต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เหลือง และให้อยู่ในระหว่างกักกันตัว (Quarantine) มีกำหนด 6 วัน
คนต่างด้าวที่เดินทางมาจากประเทศเขตติดโรคไข้เหลืองจะต้องแสดงเอกสาร เรียกว่า“ เอกสารระหว่างประเทศรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันไข้เหลือง”
(International Health Certificate on Yellow Fever Vaccination) ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเมื่อเดินทางถึงประเทศไทย จึงจะได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศได้ (ระเบียบปฏิบัตินี้ใช้บังคับกับผู้ถือหนังสือเดินทางทุกประเภท รวมทั้งผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการด้วย)
สำหรับบุคคลทั้ง 45 สัญชาติดังกล่าว กรณีที่มีถิ่นพำนักอยู่ในประเทศอื่นที่มิใช่เป็นเขตติดโรคไข้เหลือง หรือมิได้เดินทางมาจากประเทศที่อยู่ในรายชื่อเขตติดโรคไข้เหลือง ไม่จำเป็นต้องใช้ใบรับรอง International Health Certificate มาแสดงประกอบคำร้องขอรับการตรวจลงตรา ณ สถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ ทั้งนี้ ควรเตรียมใบสำคัญถิ่นที่อยู่หรือเอกสารอื่นใดที่แสดงว่าตนมิได้พำนักอยู่ในประเทศเขตติดโรคไข้เหลืองมาแสดงต่อเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมือง ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองเพื่อป้องกันปัญหาความไม่สะดวกอันอาจจะเกิดขึ้น
รายชื่อประเทศหรือดินแดนที่เป็นเขตติดโรคไข้เหลืองมีดังนี้
(1) สาธารณรัฐโบลิเวีย (Republic of Bolivia)
(2) สาธารณรัฐเอกวาดอร์ (Republic of Ecuador)
(3) สาธารณรัฐปานามา (Republic of Panama)
(4) สาธารณรัฐเวเนซุเอลา (Republic of Venezuela)
(5) สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล (Federative Republic of Brazil)
(6) ดินแดนเฟรนช์เกียนา (French Guiana)
(7) สาธารณรัฐเปรู (Republic of Peru)
(8) สาธารณรัฐโคลอมเบีย (Republic of Colombia)
(9) สาธารณรัฐสหกรณ์กายอานา (Cooperative Republic of Guyana)
(10) สาธารณรัฐซูรินาเม (Republic of Suriname)
(11) สาธารณรัฐแองโกลา (Republic of Angola)
(12) สาธารณรัฐบุรุนดี (Republic of Burundi)
(13) สาธารณรัฐชาด (Republic of Chad)
(14) สาธารณรัฐอิเควทอเรียลกินี (Republic of Equatorial Guinea)
(15) สาธารณรัฐแกมเบีย (Republic of the Gambia)
(16) สาธารณรัฐกินีบิสเซา (Republic of Guinea Bissau)
(17) สาธารณรัฐมาลี (Republic of Mali)
(18) สหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรีย (Federal Republic of Nigeria)
(19) สาธารณรัฐเซเนกัล (Republic of Senegal)
(20) สาธารณรัฐซูดาน (Republic of the Sudan)
(21) สหสาธารณรัฐแทนซาเนีย (United Republic of Tanzania)
(22) สาธารณรัฐเบนิน (Republic of Benin)
(23) สาธารณรัฐแคเมอรูน (Republic of Cameroon)
(24) สาธารณรัฐคองโก (Republic of the Congo)
(25) สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย (Federal
Democratic Republic of Ethiopia)
(26) สาธารณรัฐกานา (Republic of Ghana)
(27) สาธารณรัฐเคนยา (Republic of Kenya)
(28) สาธารณรัฐอิสลามมอริเตเนีย (Islamic Republic of Mauritania)
(29) สาธารณรัฐรวันดา (Republic of Rwanda)
(30) สาธารณรัฐเซียร์ราลีโอน (Republic of Sierra Leone)
(31) สาธารณรัฐโตโก (Republic of Togo)
(32) ประเทศบูร์กินาฟาโซ (Burkina Faso)
(33) สาธารณรัฐแอฟริกากลาง (Central African Republic)
(34) สาธารณรัฐโกตดิวัวร์ (Republic of Cote d’Ivoire)
(35) สาธารณรัฐกาบอง (Gabonese Republic)
(36) สาธารณรัฐกินี (Republic of Guinea)
(37) สาธารณรัฐไลบีเรีย (Republic of Liberia)
(38) สาธารณรัฐไนเจอร์ (Republic of Niger)
(39) สาธารณรัฐประชาธิปไตยเซาตูเมและปรินซิปี (Democratic
Republic of Sao Tome and Principe)
(40) สาธารณรัฐประชาธิปไตยโซมาลี (Somali Democratic Republic)
(41) สาธารณรัฐยูกันดา (Republic of Uganda)
(42) สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (Democratic Republic of
Congo)
(43) สาธารณรัฐตรินิแดดและโตเบโก (Republic of Trinidad and Tobago)
(44) สาธารณรัฐอาร์เจนตินา (Argentine Republic)
(45) สาธารณรัฐปารากวัย (Republic of Paraguay)
http://www.consular.go.th/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น