1. ต้องรู้ต้นกำเนิดของความกลัว
ข้อนี้สำคัญมาก ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าสิ่งที่เรากลัวนั้นแท้ที่จริงคืออะไร ส่วนใหญ่แล้วการกลัวการขายจะมาจากหลายรูปแบบ เช่น กลัวสินค้าหรือบริการของเราอาจจะไม่เป็นเหมือนกับสิ่งที่เราได้บอกไป, กลัวการปฏิเสธจากลูกค้า หรืออาจจะเป็นหลาย ๆ อย่างรวม ๆ กัน ดังนั้นการที่รู้สิ่งที่เรากลัวที่แท้จริงคืออะไรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะกำจัดความกลัวออกไปเพื่อเอาขนะมันให้ได้
2. เข้าถึงต้นกำเนิดความกลัวและทำการแก้ไข
เมื่อรู้ว่าต้นกำเนิดความกลัวคืออะไรต้องรีบแก้ให้ตรงจุด เช่น กรณีที่ไม่มั่นใจในสินค้า ก็ต้องทำการปรับปรุงสินค้า ในทางปฏิบัติคุณอาจทำไม่ได้ด้วยตัวเอง แต่ก็อาจจะช่วยได้ด้วยการนำเอาผลการสำรวจความพอใจลูกค้าส่งให้กับเจ้าหน้าที่ของบริษัทเพื่อทำการปรับปรุงสินค้าต่อไป ส่วนในเรื่องความกลัวการปฏิเสธ ก็ทำได้ด้วยการสังเกตและศึกษาลูกค้าให้ดี และทำการเตรียมตัวให้ดีก่อนเข้าพบลูกค้าก็พอจะช่วยคุณได้เป็นอย่างดี
เมื่อรู้ว่าต้นกำเนิดความกลัวคืออะไรต้องรีบแก้ให้ตรงจุด เช่น กรณีที่ไม่มั่นใจในสินค้า ก็ต้องทำการปรับปรุงสินค้า ในทางปฏิบัติคุณอาจทำไม่ได้ด้วยตัวเอง แต่ก็อาจจะช่วยได้ด้วยการนำเอาผลการสำรวจความพอใจลูกค้าส่งให้กับเจ้าหน้าที่ของบริษัทเพื่อทำการปรับปรุงสินค้าต่อไป ส่วนในเรื่องความกลัวการปฏิเสธ ก็ทำได้ด้วยการสังเกตและศึกษาลูกค้าให้ดี และทำการเตรียมตัวให้ดีก่อนเข้าพบลูกค้าก็พอจะช่วยคุณได้เป็นอย่างดี
3. แสดงความกระตือรือร้นหรือตื่นเต้นต่อสิ่งที่คุณเสนอ
วิธีที่ดีวิธีหนึ่งที่หลายๆท่านเคยใช้ได้ผลต่อการเอาชนะความกลัวในการขายคือการแสดงความกระตือรือร้นต่อสิ่งที่คุณนำเสนอ ด้วยการจดรายการของผลประโยชน์ต่าง ๆ ที่จะได้รับ, ตัวอย่างผู้ที่ประสบความสำเร็จ หรือความพึงพอใจของลูกค้าที่ได้รับจากการใช้สินค้า, บริการหรือสิ่งที่คุณกำลังเสนอ จำให้ขึ้นใจเพื่อใช้ในการนำเสนอออกไปให้กับลูกค้าของคุณต่อไป
วิธีที่ดีวิธีหนึ่งที่หลายๆท่านเคยใช้ได้ผลต่อการเอาชนะความกลัวในการขายคือการแสดงความกระตือรือร้นต่อสิ่งที่คุณนำเสนอ ด้วยการจดรายการของผลประโยชน์ต่าง ๆ ที่จะได้รับ, ตัวอย่างผู้ที่ประสบความสำเร็จ หรือความพึงพอใจของลูกค้าที่ได้รับจากการใช้สินค้า, บริการหรือสิ่งที่คุณกำลังเสนอ จำให้ขึ้นใจเพื่อใช้ในการนำเสนอออกไปให้กับลูกค้าของคุณต่อไป
4. ปรับเปลี่ยนมุมมอง
ลองทำการปรับเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการขาย ถ้าคุณรู้สึกไม่สบายใจหรือลำบากใจในการขาย ด้วยการปรับให้เป็นการแบ่งปันสินค้าให้ลองใช้, การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลประโยชน์สินค้าหรือบริการ, การบอกเล่าประสบการณ์ที่ดีต่อสินค้าหรือบริการ หรือบอกเล่าประสบการณ์จากการใช้สินค้าหรือบริการของผู้ที่ได้ใช้แล้ว แทนการที่จะพยายามโน้มน้าวให้เกิดการซื้อ ซึ่งอาจจะทำให้คุณสบายใจขึ้นและพร้อมที่จะปฏิบัติมากกว่าการคิดว่าจะออกไปขายนะครับ
ลองทำการปรับเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการขาย ถ้าคุณรู้สึกไม่สบายใจหรือลำบากใจในการขาย ด้วยการปรับให้เป็นการแบ่งปันสินค้าให้ลองใช้, การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลประโยชน์สินค้าหรือบริการ, การบอกเล่าประสบการณ์ที่ดีต่อสินค้าหรือบริการ หรือบอกเล่าประสบการณ์จากการใช้สินค้าหรือบริการของผู้ที่ได้ใช้แล้ว แทนการที่จะพยายามโน้มน้าวให้เกิดการซื้อ ซึ่งอาจจะทำให้คุณสบายใจขึ้นและพร้อมที่จะปฏิบัติมากกว่าการคิดว่าจะออกไปขายนะครับ
5. เริ่มแต่น้อย
บ่อยครั้งที่หลายท่านพยายามที่จะขายจำนวนหรือปริมาณที่มากเกินไป ซึ่งทำให้กดดันตัวเองมากเกินไปจนทำให้เกิดความกลัวขึ้นในที่สุด ดังนั้นในการที่จะเอาชนะความกลัวนี้ได้ก็เพียงคุณเริ่มแต่น้อย เช่นเริ่มต้นธุรกิจด้วยการแนะนำให้กับเพื่อนสนิทบางคน และค่อยขยายต่อไปในวงกว้างขึ้น ๆ ต่อไป หลาย ๆ ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จก็เริ่มจากเล็ก ๆ และค่อยๆ โตอย่างมั่นคง
บ่อยครั้งที่หลายท่านพยายามที่จะขายจำนวนหรือปริมาณที่มากเกินไป ซึ่งทำให้กดดันตัวเองมากเกินไปจนทำให้เกิดความกลัวขึ้นในที่สุด ดังนั้นในการที่จะเอาชนะความกลัวนี้ได้ก็เพียงคุณเริ่มแต่น้อย เช่นเริ่มต้นธุรกิจด้วยการแนะนำให้กับเพื่อนสนิทบางคน และค่อยขยายต่อไปในวงกว้างขึ้น ๆ ต่อไป หลาย ๆ ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จก็เริ่มจากเล็ก ๆ และค่อยๆ โตอย่างมั่นคง
6. ทำตามแนวทางแห่งความสำเร็จ
เก็บเป้าหมายแห่งความสำเร็จไว้ใกล้ตัวที่สามารถทบทวนได้เสมอ และทำการบันทึกผลการทำงานลงไปทุกวันเพื่อเปรียบเทียบและประเมินกับเป้าหมาย วิธีนี้จะช่วยให้คุณทำงานตามแนวทางได้อย่างถูกต้อง
เก็บเป้าหมายแห่งความสำเร็จไว้ใกล้ตัวที่สามารถทบทวนได้เสมอ และทำการบันทึกผลการทำงานลงไปทุกวันเพื่อเปรียบเทียบและประเมินกับเป้าหมาย วิธีนี้จะช่วยให้คุณทำงานตามแนวทางได้อย่างถูกต้อง
7. สนุกกับงาน
อย่าเครียดกับงานจนมากเกินไป ควรจะทำงานด้วยความสนุกบ้าง หรือถ้ามีโอกาสก็หาวิธีที่จะบังปันกลับให้กับสังคมบ้าง เช่นการบริจากเงินหรือสิ่งของให้กับมูลนิธิหรือสมาคมบ้าง จะทำให้คุณรู้สึกสบายใจขึ้นมาก
อย่าเครียดกับงานจนมากเกินไป ควรจะทำงานด้วยความสนุกบ้าง หรือถ้ามีโอกาสก็หาวิธีที่จะบังปันกลับให้กับสังคมบ้าง เช่นการบริจากเงินหรือสิ่งของให้กับมูลนิธิหรือสมาคมบ้าง จะทำให้คุณรู้สึกสบายใจขึ้นมาก
8. มุ่งมั่นต่อเป้าหมาย
หลาย ๆ ท่านที่ประสบความสำเร็จเพราะความมุ่งมั่นและโฟกัสต่อการที่จะไปให้ถึงเป้าหมายและผลประโยชน์ของตนที่วางแผนไว้ ต้องหมั่นเตือนตัวเองเสมอว่าเราต้องการอะไร, ทำไมเราจึงทำสิ่งเหล่านี้ ซึ่งก็จะช่วยให้คุณทำต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะไปถึงสิ่งที่ฝันไว้
หลาย ๆ ท่านที่ประสบความสำเร็จเพราะความมุ่งมั่นและโฟกัสต่อการที่จะไปให้ถึงเป้าหมายและผลประโยชน์ของตนที่วางแผนไว้ ต้องหมั่นเตือนตัวเองเสมอว่าเราต้องการอะไร, ทำไมเราจึงทำสิ่งเหล่านี้ ซึ่งก็จะช่วยให้คุณทำต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะไปถึงสิ่งที่ฝันไว้
9. ละวางบ้าง
ในบางช่วงก็ต้องมีการละวางจากผลการทำงานบ้าง บางครั้งการที่เราจริงจังกับผลงานที่ออกมามากจนเกินไปก็อาจกดดันเรามากเกินไปได้ ซึ่งก็จะต้องละวางต่อผลงานลงบ้างในบางจังหวะ และหันมาทบทวนถึงวิธีการทำงานหรือความพยายามที่จะให้ได้ผลงานนั้นออกมา ว่าในระหว่างทางนั้นเราทำได้ดีหรือยัง ควรต้องปรับปรุงอะไรบ้างหรือไม่
ในบางช่วงก็ต้องมีการละวางจากผลการทำงานบ้าง บางครั้งการที่เราจริงจังกับผลงานที่ออกมามากจนเกินไปก็อาจกดดันเรามากเกินไปได้ ซึ่งก็จะต้องละวางต่อผลงานลงบ้างในบางจังหวะ และหันมาทบทวนถึงวิธีการทำงานหรือความพยายามที่จะให้ได้ผลงานนั้นออกมา ว่าในระหว่างทางนั้นเราทำได้ดีหรือยัง ควรต้องปรับปรุงอะไรบ้างหรือไม่
10. หมั่นฝึกฝนอยู่เสมอ
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในธุรกิจใดหรือทำงานสาขาใดก็ตาม สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการที่จะต้องหมั่นฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความชำนาญ และทักษะที่เพิ่มขึ้นต่อๆ ไปค่ะ...
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในธุรกิจใดหรือทำงานสาขาใดก็ตาม สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการที่จะต้องหมั่นฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความชำนาญ และทักษะที่เพิ่มขึ้นต่อๆ ไปค่ะ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น