21 มิถุนายน 2555

10 อันดับ ขั้นตอนลดเครียด ลดน้ำหนัก

10 อันดับ ขั้นตอนลดเครียด ลดน้ำหนัก
1ตั้งเป้าหมายไว้ที่ "ความรู้สึกดี ๆ"
ในแผนการตั้งใจกินให้ดีต่อสุขภาพนั้น ความทรงจำดี ๆ จะช่วยให้คุณทำได้สำเร็จมากกว่าความคิดว่าคุณถูกบังคับให้กิน ก่อนที่คุณจะกินขนมหวาน ลองถามตัวเองสิว่า "ถ้ากินเข้าไปแล้วฉันจะรู้สึกยังไงในอีกชั่วโมงหนึ่ง" ยกตัวอย่างเช่น หลังจากกินช็อกโกแลตบาร์แท่งนั้น คุณอาจจะรู้สึกหิวน้ำ หงุดหงิด อ่อนเพลีย แต่ในทางกลับกัน การไปเข้ายิมเพียง 15 นาที จะทำให้คุณรู้สึกดีไปทั้งวัน
2หลักหายใจแบบง่าย ๆ
คุณไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิเป็นชั่วโมงในเมื่อแบบฝึกหัดหายใจเพียง 5 นาที ทุก ๆ เช้าจะช่วยให้คุณสงบพร้อมรับวันใหม่ นอนบนพื้น ใช้หมอนใบเล็ก ๆ รองศีรษะ และใช้ผ้าห่มคลุมลำตัวเอาไว้ หายใจเช้า - ออกลึก ๆ คอยสังเกตการหายใจจนลมหายใจเป็นธรรมชาติ ช้าลง ยาวขึ้น จะช่วยให้ผ่อนคลาย
3เดินคลายเครียด
การเดินจะช่วยควบคุมฮอร์โมนความเครียดโดยไม่เพิ่มปริมาณฮอร์โมนดังกล่าว (ในขณะที่การออกกำลังซ้ำ ๆ อย่างวิ่งจะทำให้เกิดฮอร์โมนเครียด) นอกจากนี้ ยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อไหล่ที่เขม็งเกลียว และช่วยให้การหายใจเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากในขณะที่เครียดหลายคนอาจหยุดหายใจ เดินกลางแจ้ง (แต่ไม่ใช่กลางแดด) อย่างน้อย 30 - 45 นาทีต่อวัน หรือใช้เครื่องนับก้าวเดินให้ได้ 8,000 - 15,000 ก้าวต่อวัน
4พักผ่อนอย่างมีคุณภาพ
เราไม่สามารถเลี่ยงเสียงลูกร้อง หรือเสียงเจ้านายบ่นได้ แต่สิ่งที่เราทำได้คือการพักระหว่างช่วงเครียด เพื่อช่วยลดปัญหาสุขภาพกายและจิตที่เกิดขึ้นจากความเครียดสะสม การพักผ่อนไม่ได้หมายถึงการนอนเพียงอย่างเดียว (แม้ว่าการนอนจะช่วยได้มาก) แต่เราต้องการพักผ่อนอย่างแอ็กทีฟ เช่น ว่ายน้ำ เดินในธรรมชาติ เล่นโยคะ หรือแม้แต่เข้าสังคม และคุยกับเพื่อน เป็นต้น
5กินโปรตีนกับสี
โปรตีนช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อให้พลังงาน ชดเชยการสูญเสียไขมัน ทำให้คุณอิ่ม และมีกรดอะมิโนจำเป็นที่ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ได้นาน ดังนั้น อารมณ์แปรปรวนที่เกิดขึ้นอยู่เนือง ๆ ก็จะน้อยลงด้วย ในแต่ละมื้อกินอาหารต่อไปนี้ อย่างน้อยหนึ่งหน่วยบริโภค ได้แก่ ไข่ ถั่ว หรือเมล็ดพืช เนื้อไขมันต่ำ หรือไก่ (ถ้าจะให้ดีควรเป็นออร์แกนิก) และปลา
6หยุดโหยของหวาน
ความเครียดอาจจะทำให้เกิดวัฏจักรของการอย่างของหวานกับคาร์โบไฮเดรตขัดสี ที่จะนำไปสู่น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อลดน้ำตาล ระวังของหวาน ซึ่งมีส่วนผสมของน้ำตาลที่ลงท้ายด้วย "ose" ควรดูฉลาก และจำไว้ว่าน้ำเชื่อมข้าวโพด มอลโตเด็กซ์ตริน กากน้ำตาล และมอลต์บาร์เลย์ ก็ถือเป็นน้ำตาลเหมือนกัน
7อย่ากลัวไขมัน
ไขมันที่ดีในทุกมื้อจะช่วยให้คุณอิ่มเช่นเดียวกับช่วยให้คุณหยุดโหยของหวาน คุณสามารถพบไขมันที่ดีได้ในอะโวคาโด อัลมอนด์ และถั่วอื่น ๆ เมล็ดพืช มะกอก เมล็ดแฟล็กซ์ เมล็ดงา น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้
8ฟิตเนสอย่างไร "ยิ่งน้อยยิ่งดี"
การนับชั่วโมงบนเครื่องออกกำลังอาจกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนแห่งความเครียดจนทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น แต่การศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ชี้ว่า การออกกำลังในระยะสั้น ๆ จะช่วยกระตุ้นเมตาบอลิซึ่มของคุณได้อย่างน้อยแปดชั่วโมงหลังออกกำลัง ผลที่ดีที่สุดมาจากการออกกำลังแบบใช้แรงต้าน หรือยกน้ำหนัก (Resistance Training) เพียง 15 นาที โดยการใช้กล้ามเนื้อหลาย ๆ มัดในการเคลื่อนไหว เช่น ท่าสควอต ท่าลังก์ หรืออินเทอร์วัลเทรนนิ่งที่สลับระดับการออกกำลัง เช่น วิ่งเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้หนึ่งนาทีสลับกับวิ่งช้า ๆ อีก 15 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์
9มองหาความเครียดดี ๆ
ความเครียดที่ดีมีอยู่จริง และมันจะทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้น โดยการประสบกับความเครียดเล็กน้อยจะทำให้ร่างกายมีโปรแกรมตอบสนอง ความเครียดที่ดีจะอยู่ในการควบคุมของเรา มีจุดเริ่มต้นกับจุดจบชัดเจนและทำให้สมองฟื้นฟู เช่น การเล่นเกมบริหารสมอง แต่ในทางตรงกันข้าม ความเครียดที่ควบคุมไม่ได้ อย่างเช่น ปัญหาการเงิน การงาน หรือความรัก จะให้ผลกลับกัน
10กลับคืนสู่ไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพ
ครีมบูเล่ (ขนมหวานของฝรั่งเศส) ที่คุณเพิ่งกินเข้าไปนั้นอาจจะไม่ใช่ปัญหาอะไร ถ้าคุณกลับไปสู่ไลฟ์สไตล์ปลอดเครียดเหมือนเดิม ทิ้งทัศนคติว่า "ฉันต้องเลิกกินสิ่งนี้" ซึ่งจะทำให้เครียดมากขึ้นและนำไปสู่การสวาปาม ถ้าคุณออกกำลังบ่อย ๆ กินอาหารที่มีประโยชน์ และสร้างมาตรการป้องกันความเครียดทุกวัน คุณก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอาหาร หรือแอลกอฮอล์ด้วยซ้ำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น