มนัสชนก ส่งศรีสุข
เจ้าของฉายา หลินชิงเสียเมืองไทย มนัสชนก ส่งศรีสุข
ยึดคำพ่อสอน ต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง
จากภาพยนตร์เรื่อง “แรกรัก” สร้างชื่อเสียงจนโด่งดัง แต่ด้วยหน้าตา-ทรงผมไปละม้ายคล้ายคลึงหลินชิงเสีย นางเอกยอดนิยมของไต้หวันในขณะนั้น ทำให้ถูกเรียกขานว่า “หลินชิงเสียเมืองไทย”
จากความน่ารักสดใสไม่แตกต่างจากภาพในอดีต คุณนก-มนัสชนก อดีตนางเอกภาพยนตร์ และอดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์วันหยุด โดยเธอเข้าสู่วงการด้วยการถ่ายแบบโฆษณา และเล่นภาพยนตร์เรื่องแรก "แรกรัก" คู่กับ ไพโรจน์ สังวริบุตร ที่สร้างชื่อเสียงจนโด่งดังไปทั่วประเทศ วันนี้ WhO? มาตามติดชีวิตของเธอที่บ้านพักย่านพุทธมณฑล
/// ชีวิตสนุกกับงานอิสระ
ตั้งแต่โด่งดังจากภาพยนตร์ แรกรัก ปี 2521 ตามด้วยเรื่อง เพลิงตะวันอันตราย ปี 2522 แล้วเล่นเป็นดารารับเชิญในเรื่องพ่อจ๋า จากนั้นเข้าทำงานประจำที่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) กว่าสิบปี ถัดจากนั้นไปทำงานประจำที่ บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) อีกหลายปีในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ควบคู่ไปกับการทำหน้าที่พิธีกร ท้าพิสูจน์ กระทั่งเปลี่ยนไปทำงานโรงแรม แต่ด้วยความที่รักอิสระมากกว่าทำงานประจำเธอเลยออกมาเป็นฟรีแลนซ์
“ทำงานประจำมาตลอดชีวิตมันเบื่อ หากทำไปจนอายุมากขึ้นร่างกายคงแย่แน่ ตื่นเช้าไปนั่งทำงานคงไม่ใช่เราแล้ว ก็เลยทำเป็นที่ปรึกษาหลายแห่ง แล้วยังเป็นอนุกรรมสภากรุงเทพมหานคร อยู่ฝ่ายปกครอง ก็ไปเป็นวิทยากรปราบปรามเรื่องยาเสพติด เราจะเข้าไปคุยกับนักเรียนว่าโทษของยาเสพติดเป็นอย่างไร บางครั้งนำนักแสดงที่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ว่าเลิกแล้วไปพูดคุยเป็นการมาช่วยกัน หรือถ้าใครมีเรื่องร้องเรียนทั่วกรุงเทพฯ เช่น โรงงานนี้ปล่อยน้ำเสียทำให้น้ำเสียเราก็ต้องเข้าไปดูแลโดยต้องออกไปทุกวันพุธ-พฤหัสฯ”
เมื่อถามว่าชีวิตที่ได้ช่วยงานสังคมและงานการเมือง อนาคตไม่คิดไปเป็นผู้แทนเหมือนนักแสดงหลายๆคนบ้างหรือ “การเมืองกับพี่ไม่ถูกกัน นักการเมืองยิ่งกว่านักแสดง พี่เป็นนักแสดงมาก่อนที่ให้ความสุข ความจริงใจ คือบทบาทเข้าจ้างมาทำ พอจบเราก็สลัดคราบนั้นไป แต่นักการเมืองต้องแสดงตลอดเวลา รู้สึกว่าไม่ชอบ พี่เป็นคนไม่ค่อยชอบทะเลาะกับใคร เพราะตัวเองเป็นใจอ่อนด้วย (หัวเราะ)” นี่เป็นบทบาทของอดีตนักแสดงที่เข้ามาช่วยงานสังคมแบบเต็มใจ
/// ฉายาหลินชิงเสียเมืองไทย
ย้อนไปกว่า 30 ปีที่แล้วเป็นช่วงที่มีนักแสดงจำนวนไม่มาก สาเหตุที่เธอเข้าสู่วงการบันเทิงได้นั้น เนื่องจากมีพี่สาว ทัศนา ส่งศรีสุข เล่นหนังของ ดอกดิน กัญญามาลย์ และพี่สาวอีกคน ณัฐยา ส่งศรีสุข ก็เป็น 10 ยอดนางแบบ รุ่นเดียวกับ ตุ๊ก-ดวงตา ตุงคะมณี, ติ๋ม-เพ็ญพร ไพฑูรย์ และพี่สาวได้แต่งงานพี่ชายของ นันทิดา แก้วบัวสาย เลยเป็นช่วงเวลาที่เธอเข้าสู่วงการแสดง
“เราอยู่ในวงการตลอด พี่เป็นคนตัวเล็กสุด ที่บ้านเป็นผู้หญิงหมดใครเห็นก็บอกว่าบ้านนี้สวยหมด พี่เป็นผู้หญิงที่ชอบไว้ผมยาวชอบแต่งตัวแบบดาราจีน ชอบเลียบแบบดาราจีนหลินชิงเสีย ที่เล่นภาพยนตร์เรื่อง Outside The Window ในปี ค.ศ.1972 โด่งดังมาก เพราะดูเขาตั้งแต่เรายังเด็ก ไปโรงเรียนก็มีคนชอบมาจับผม เรามีจุดเด่น ตัวเล็กซ่ามาก พูดเก่ง ชอบแต่งตัว ชอบเล่นลีดเดอร์ เล่นกีฬาก็เก่ง ชอบเป็นหัวหน้านำเพื่อนๆ ตั้งแต่อยู่อนุบาล มีความรู้สึกว่าเราเป็นน้องผู้หญิงก็จะได้ความรักจากพี่เยอะ ทุกคนเรียกลูกนกๆ คุณพ่อคุณแม่เป็นข้าราชการไม่ร่ำรวย เลี้ยงลูกด้วยคำพูดเพราะๆ แต่สอนลูกให้คติดีๆ ทำให้เราจริงใจกับคน สอนเราเป็นผู้ให้เขาก่อนที่เราจะได้รับ สมัยเข้าวงการพี่โฆษณายาสระผม เครื่องสำอางค์สไตล์ญี่ปุ่น โตชิบา มีชื่อเสียงก่อนที่จะเข้ามาเล่นหนังเสียอีก คนเห็นหน้าทางโฆษณาก็นึกว่าเราเป็นคนญี่ปุ่น” ด้วยเหตุนี้เองทำให้เธอได้รับฉายาหลินชิงเสียเมืองไทย
/// ภาพยนตร์แรกรักสร้างชื่อ
“พอคนติดต่อมาเล่นหนังก็บอกว่าทำไมตัวเล็ก ชอบใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ คิวดำ จมูกยาวเหมือนแม่มด เขาจะให้เราเปลี่ยนบุคลิกเราก็ไม่เอา ไปดึงจมูก ยีผม พอไม่ยอมผู้กำกับเขาเห็นว่าเราแน่มาก เลยให้มาเล่นหนังเรื่องแรก แรกรัก คู่กับ พี่เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร ตอนนั้นพี่เอ๋ดังมาจากหนัง วัยอลวน ค่าตัวแพง แต่มาเล่นคู่กับมนัสชนกซึ่งโนเนมาก เป็นแค่นางแบบโฆษณา พี่เอ๋สอนวิธีการแสดงทั้งหมด
“ตอนนั้นพี่ดังมาก (ลากเสียงสูง) ไม่คิดว่าจะดังขนาดนี้ พี่ว่าทุกคนต้องจำมนัสชนกได้ ผมยาว ขาสวย ตัวเล็กๆ พอดังปุ๊บจะให้เล่นเรื่องแม่นาคพระโขนง เราไม่เล่นเพราะเราเป็นคนกลัวผี แต่ได้ไปรับเชิญเรื่อง พ่อจ๋า เกี่ยวกับพ่อเล่นกับนันทิดา รุ่นเดียวกับพี่ก็จะมี ลลนา สุลาวัลย์, นิภาพร นงนุช, วาสนา สิทธิเวช, ธิติมา สังขพิทักษ์ เป็นดาราตอนนั้นเก็บเงินได้เยอะมาก เพราะต้องเดินสายโชว์ตัวอย่างเดียว สมัยนั้นเขาห้ามดาราไปเที่ยว ห้ามมีแฟน ไปไหนก็ต้องไปกับคุณแม่ พอออกไปไหนทีเขาปิดที่ซื้อบัตรมาดูเรา ดังมาก พี่โชว์ตัวทั่วประเทศไทย เก็บเงินได้ไม่รู้กี่ล้าน”
หลังจากนั้นอดีตนางเอกชื่อดังกลับมาเล่นละคร บาปบริสุทธิ์, 38 ซอยสอง และนางสาวทองสร้อย ทางช่อง 9 บางขุนพรหม ก็โด่งดังอีกครั้ง จากนั้นลาวงการด้วยการไปแต่งงานห่างจากวงการถึง 10 ปี แล้วได้กลับมาเล่นละครเรื่อง ซีอุย ดังอีกเช่นกัน กระทั่งมาเล่นละครทางช่อง 3 ในยุทธการปราบเมียน้อย 50 ตอนจบ
/// ดังเพราะคำสอนพ่อ
มีชื่อเสียงโด่งดังตลอดกาลมาได้ทุกวันนี้เป็นเพราะคำพูดของพ่อแม่ (มนัส-สันทนา ส่งศรีสุข) มากกว่า เพราะพ่อแม่ไม่ได้ร่ำรวย แต่เลี้ยงลูกด้วยความอดทน ให้เรียนโรงเรียนดีๆ ตั้งแต่โรงเรียนอนุบาลเรวดี พ่อย้ายไปอยู่อุบลก็ต้องไปเรียนเซนโยเซฟฯ เครือเดียวกับกรุงเทพฯ แล้วมาเรียนกรุงเทพการบัญชี มาต่อรามคำแหง และมาต่อมหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยมีพี่สาวเป็นแรงบันดาลใจ เพราะทั้งสองเป็นถึงดาวมหาวิทยาลัย
“คุณพ่อสอนว่า เราต้องซื่อสัตย์ในตัวเอง และอย่าดูถูกคน ที่สำคัญถ้าเราไม่มีความซื่อสัตย์ในตัวเอง คนอื่นจะมาซื่อสัตย์กับเราได้ยังไง เหมือนเราต้องให้คนอื่นก่อนที่เราจะได้รับกลับมา ไม่ใช่เราอยากได้ของคนอื่นก่อนที่เราจะให้เขา แต่เราให้ความจริง”
ด้วยความที่พ่อเป็นคนดี เป็นคนหัวโบราณที่สอนให้ลูกมาอย่างดี ดังนั้น ชื่อ มนัสชนก ส่งศรีสุข มาจากพ่อชื่อ มนัส เพราะพ่อเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ “พี่เลยตั้งชื่อ มนัสชนก ก่อนหน้านั้นพี่ชื่อ อมรรัตน์ สมัยนั้นคุณอมรา กำลังดัง พอชอบตั้งชื่อลูกตามชื่อดารา พี่จริงใจมาก 50 ปีโดนคนหลอกมาตลอดชีวิต พอเริ่มชินเราให้อีก บางคนรับเงินเราไปแล้วก็ไม่คืน เหมือนงานเราให้เขาเต็มร้อยแต่เขาไม่ให้เราเลย แต่พี่เป็นคนไม่คิดเยอะ ชอบร้องไห้คนเดียวปลอบใจตัวเอง ไม่เรื่องเยอะ” เธอเล่าถึงชีวิตในการเป็นผู้ให้ผลที่ได้กลายเป็นบทเรียนราคาแพง
///สุขใจ แฟนคลับไม่เคยลืม
ต่อมาเธอไปแต่งงานและได้ออกจากวงการมานานกว่า 30 ปี ไม่ได้กลับมาเล่นละครอีกเลย กระทั่งเลิกรากับสามีกลายเป็นแม่หม้ายที่ต้องเลี้ยงดูลูก 2 คน (สโนว์ไวท์-สุภสตรี ชัยวัฒนศิริ และ สนุ๊กเกอร์-จิรายุ ชัยวัฒนศิริ) ด้วยตัวเอง
สมัยนั้นยังมีงานโชว์ตัว ไปออกรายการโทรทัศน์ หรือถ่ายหนังสือบ้าง แต่ความทรงจำกับความรู้สึกดีๆ ที่แฟนคลับให้กลับมาได้สร้างความภูมิใจให้ ซึ่งเธอไม่เคยลืมจวบจนวันนี้
“แฟนๆ ให้ความชื่นชอบ อยู่ที่เราด้วยมั้ง เราไปทั่วประเทศ ไปทั่วโลก แต่ยังมีคนจำเราได้ แล้วก็มองเราในแง่ดี มนัสชนก จมูกยาวๆ ผมยาวๆ บางมาถามชื่อมนัสชนก นามสกุลอะไรนะ เรามีบุคลิกที่จำได้เราได้ พี่เป็นคนถ่อมตัว ไม่ฟุ้งเฟ้อ พี่เป็นคนเจียมตัว เพราะว่าพี่ไม่ใช่ดาราดัง” เธอเล่าถึงภาพแฟนคลับที่ไม่เคยลืมด้วยน้ำเสียงมีความสุข
สำหรับอนาคตยังอยู่ในวงการบันเทิงอย่างไรอีกหรือไม่ “ตอนนี้ก็ยังช่วยงานแฟนทำโรงงานเกี่ยวกับพลาสติกรีไซเคิล (Grayling (Thailand) เขาให้พี่ไปช่วยงานเป็นพีอาร์ มาเก็ตติ้ง แล้วยังเป็นหน้าขายที่ดินให้กับเพื่อนที่ทำอสังหาริมทรัพย์ แต่เราอยากทำหน้าที่เป็นแม่บ้านให้ดีที่สุด อยากใช้ชีวิตเงียบ หรืออาจจะได้เป็นคุณย่าคุณยายเพราะเรามีทั้งลูกสาวลูกชาย ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ก็เสียหมด พี่น้องก็สบายดีแล้ว”
ในส่วนของชีวิตคู่กับผู้หญิงด้วยกัน “พี่อยู่กับ พี่ถั่ว (ปราณี วรกุลชัย) เหมือนอยู่กับเพื่อนมากกว่า การที่เราเป็นผู้หญิงกับผู้หญิง เขาเป็นผู้นำ ครอบครัวให้เกียรติเรา เหมือนพี่น้อง พูดอะไรกันได้ เรื่องเซ็กซ์ไม่ใช่ประเด็น เราอยู่เพราะความเข้าใจ และเชื่อใจกันมากกว่า ดูแลกันในยามแก่เฒ่า เราไม่รู้จะอยู่กับพี่ถั่วตลอดชีวิตหรือไม่ คนเราไม่มีอะไรแน่นอน พี่ว่าเราอยู่ด้วยความเข้าใจมีมากกว่า ความอดทน ถ้าเข้าใจกันไว้ใจ เชื่อใจกัน เหมือนเรารวมใจไว้ด้วยกัน พออยู่ด้วยกันก็เหมือนเป็นใจดวงเดียวกัน”
/// ให้สตินักแสดงรุ่นใหม่
“ทุกวันนี้วงการแสดงมีเครื่องมือที่ทันสมัย เด็กรุ่นใหม่เก่งกว่า การพัฒนาก็เก่งกว่าเรา หน้าตาก็สวยกว่า สมัยนี้เทคโนโลยีช่วยได้ แต่สิ่งเดียวที่อยากให้น้องๆ รู้จักเก็บ รู้จักออม และเป็นผู้ให้ก่อนที่เราจะได้รับ สมัยนี้หน้าเขาคล้ายๆ กันหมด อยากให้น้องอยู่ที่การวางตัว วางตัวให้ดีๆ ความดีจะอยู่กับตัวเราจนวันตาย แต่ถ้าเราทำพลาดครั้งสองครั้ง ทำไปโดยไม่รู้ตัวเราจะไม่เหลืออะไรเลย วันนี้เรามีหน้ามีตาทางสังคมมีเงินมีทอง แต่ถ้าไม่รู้จักเก็บในอนาคตก็อาจทำให้หมดไปได้เช่นกัน”
ก่อนจบบทสนทนากันไปเลยมีหลายคนถามว่า ทำอะไรถึงได้ยังสาวสวยเหมือนสาวสองพันปี “พี่นกเป็นคนดื่มน้ำผลไม้ การออกกำลังกายของพี่คือการทำงานบ้าน พี่สวดมนต์เสร็จก็จะชอบยกขา อาบน้ำก็จะยืดเส้นยืดสาย พี่เป็นคนชอบยกของ ชอบแบกของ พี่ทำเอง มีความอดทน ตรงนี้อาจทำให้เราสดใสตลอด อย่าไปกินเยอะ พี่ไม่เคยอดอาหาร แต่ไม่ไปทานไขมันเยอะ พี่ดื่มน้ำผลไม้ปั่นวันละ 3-4 แก้ว สิ่งที่ได้มาเวลาแต่งหน้าก็ทำให้หน้าใส
“พี่เคยผ่าสมองเป็นเนื้องอกซึ่งเป็นกรรมพันธุ์ พ่อกับพี่สาวก็เป็น ความจำหายไปเลยวันสองวัน ตื่นมาจำไม่ได้ไม่รู้จักใครเลย การที่ได้ฟื้นกลับมาเหมือนเกิดใหม่เราถือว่าเราโชคดีมาก มันเป็นสัจธรรมชีวิต เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ และสิ่งที่พี่มีวันนี้เพราะความกตัญญู เพราะเลี้ยงแม่จนลมหายใจสุดท้าย”
นี่เป็นแนวคิดการทำงานของนักแสดงสาว มนัสชนก ส่งศรีสุข ที่กำลังกลับมาชิมงานละคร ซึ่งเชื่อว่าอาจทำให้แฟนคลับได้ชื่นชมผลงานการแสดงอีกครั้ง ตามคำนิยามของเธอ...ชีวิตเป็นของเรา ทำชีวิตให้มีค่าและความหมายที่สุด
Cr :: นิตยสาร WhO?
มนัสชนก ส่งศรีสุข กับ Lifevantage
https://www.youtube.com/watch?v=lzdcEl7oUG4&t=16s
https://www.youtube.com/watch?v=-muotaKojQk&t=8s
https://www.youtube.com/watch?v=8AnlwWU4sYA&t=8s
https://www.youtube.com/watch?v=-hz5hhkberY&t=9s
https://www.youtube.com/watch?v=SlRDKrxk5hQ&t=19s
►►►►►►►►►►►►►►►►►►►►►►►►►►►►►
สนใจเป็นตัวแทนจำหน่าย/ซื้อผลิตภัณฑ์ Lifevantage
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ⬇️
สายด่วนโทร ☎️ :: 0632859419
🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸 🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸
แอดไลน์อัตโนมัติ :: ⬇️⬇️⬇️
🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸 🌸🌸🌸🌸🌸🌸
แพ็คเก็ต การสมัครที่สมาชิก LifeVantage
เริ่มต้นราคา 4,800 บาท
### สมัครสมาชิกกับทีมงานของเราชุดโกลด์/ชุดแพลทตินั่มตอนนี้ !!!
ทำเว็บไซต์สำหรับการขายให้ฟรีค่ะ !!!
🌺🌺🌺🌺🌺🌺🌺🌺🌺🌺🌺🌺🌺🌺🌺🌺🌺🌺🌺🌺
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น